นายสุคนธ์ นาเมืองรักษ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม รับโล่รางวัลส่งเสริมการออมยอดเยี่ยม ประเภทสถานศึกษาดีเด่น กลุ่มอาชีวศึกษา จากนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในงานมอบรางวัลส่งเสริมการออมดีเด่น ประจำปี 2561 เนื่องในวันออมแห่งชาติ ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ ชั้น 4 กระทรวงการคลัง
วิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม คว้าโล่รางวัลส่งเสริมการออมยอดเยี่ยม ประเภทสถานศึกษาดีเด่น กลุ่มอาชีวศึกษา ในงานมอบรางวัลส่งเสริมการออมดีเด่น ประจำปี 2561 เนื่องในวันออมแห่งชาติ วันที่ 31 ตุลาคม โดยมีนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ กระทรวงการคลัง
ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า นักเรียน นักศึกษา ภาควิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ระดับ ปวส.1 และ ปวส.2 วิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้รับโล่รางวัลส่งเสริมการออมยอดเยี่ยม ประเภทสถานศึกษาดีเด่น กลุ่มอาชีวศึกษา จากการเข้าร่วมกิจกรรมการออมของกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กระทรวงการคลัง โดยนักเรียน นักศึกษา ได้นำเงินไปออมขั้นต่ำ 50 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่นักเรียนสามารถเก็บออมได้สะดวกหรือผู้ปกครองเป็นผู้เก็บออมให้ และรับเงินสมทบเพิ่มจากรัฐ รวมทั้งได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนด้วย ถือเป็นการเริ่มวางรากฐานทางการเงินให้ตนเองตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อพึ่งพาตนเองได้ในวัยเกษียณจากการทำงาน สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ได้เดินหน้ากองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ในการดูแลประชาชนอายุระหว่าง 15-60 ปี ทั้งนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปทุกสาขาอาชีพ ที่ไม่ได้รับราชการ ไม่ได้อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญหรือกองทุนของรัฐ สอดคล้องกับการปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และกระแสพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เนื่องในวันออมแห่งชาติ ความตอนหนึ่งว่า…”การใช้จ่ายอย่างประหยัดนั้น…จะเป็นหลักประกันความสมบูรณ์พูนสุขของผู้ประหยัดและครอบครัว ช่วยป้องกันความขาดแคลนในวันข้างหน้า การประหยัดดังกล่าวนี้จะมีผลดีไม่เฉพาะแก่ผู้ที่ประหยัดเท่านั้น ยังเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติด้วย”
ด้านนายสุคนธ์ นาเมืองรักษ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม กล่าวเพิ่มเติมว่า รางวัลส่งเสริมการออมยอดเยี่ยมที่ได้รับ ถือเป็นความภาคภูมิใจของนักเรียน นักศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม ซึ่งเป็นผลมาจากการส่งเสริม และสนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษา ตระหนักถึงความสำคัญของการออมเงิน โดยให้สมัครเป็นสมาชิก กอช. เพื่อเรียนรู้การวางแผนการเงิน และการออม กระตุ้นให้มีกิจนิสัยรักการออม และมีวินัยทางการเงิน โดยให้แบ่งเงินจากค่าขนม นำมาฝากเงินกับกองทุนฯ อย่างน้อยขั้นต่ำครั้งละ 50 บาท เป็นประจำทุกคน เมื่อทำทุกวันก็จะเห็นคุณค่าของเงินอีกด้วย
ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า นักเรียน นักศึกษา ภาควิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ระดับ ปวส.1 และ ปวส.2 วิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้รับโล่รางวัลส่งเสริมการออมยอดเยี่ยม ประเภทสถานศึกษาดีเด่น กลุ่มอาชีวศึกษา จากการเข้าร่วมกิจกรรมการออมของกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กระทรวงการคลัง โดยนักเรียน นักศึกษา ได้นำเงินไปออมขั้นต่ำ 50 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่นักเรียนสามารถเก็บออมได้สะดวกหรือผู้ปกครองเป็นผู้เก็บออมให้ และรับเงินสมทบเพิ่มจากรัฐ รวมทั้งได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนด้วย ถือเป็นการเริ่มวางรากฐานทางการเงินให้ตนเองตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อพึ่งพาตนเองได้ในวัยเกษียณจากการทำงาน สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ได้เดินหน้ากองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ในการดูแลประชาชนอายุระหว่าง 15-60 ปี ทั้งนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปทุกสาขาอาชีพ ที่ไม่ได้รับราชการ ไม่ได้อยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญหรือกองทุนของรัฐ สอดคล้องกับการปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และกระแสพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เนื่องในวันออมแห่งชาติ ความตอนหนึ่งว่า…”การใช้จ่ายอย่างประหยัดนั้น…จะเป็นหลักประกันความสมบูรณ์พูนสุขของผู้ประหยัดและครอบครัว ช่วยป้องกันความขาดแคลนในวันข้างหน้า การประหยัดดังกล่าวนี้จะมีผลดีไม่เฉพาะแก่ผู้ที่ประหยัดเท่านั้น ยังเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติด้วย”
ด้านนายสุคนธ์ นาเมืองรักษ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม กล่าวเพิ่มเติมว่า รางวัลส่งเสริมการออมยอดเยี่ยมที่ได้รับ ถือเป็นความภาคภูมิใจของนักเรียน นักศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม ซึ่งเป็นผลมาจากการส่งเสริม และสนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษา ตระหนักถึงความสำคัญของการออมเงิน โดยให้สมัครเป็นสมาชิก กอช. เพื่อเรียนรู้การวางแผนการเงิน และการออม กระตุ้นให้มีกิจนิสัยรักการออม และมีวินัยทางการเงิน โดยให้แบ่งเงินจากค่าขนม นำมาฝากเงินกับกองทุนฯ อย่างน้อยขั้นต่ำครั้งละ 50 บาท เป็นประจำทุกคน เมื่อทำทุกวันก็จะเห็นคุณค่าของเงินอีกด้วย
ที่มา:สอศ.