จังหวัดพระนครศรีอยุธยา : (22 กรกฎาคม 2551 ) นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายวีระศักดิ์ วงษ์สมบัติ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้ศึกษาและร่วมลงแปลงนาสาธิตสลายตอซังข้าวในนาโดยไม่ต้องเผาทำลาย ในโครงการจัดความรู้เพิ่มพลังให้ดิน เพื่อเพิ่มผลผลิตให้เกษตรกร ณ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง แปลงนาสาธิตซึ่งเป็นพื้นที่จริงของเกษตรกร บ้านนายประมาณ สว่างญาติ เลขที่ 64 หมู่ 1 ตำบลช้างใหญ่ อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยพื้นที่ดังกล่าวจะใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ต้นแบบเพื่อขยายความรู้ในการสลายตอซังข้าว การใช้ปุ๋ยสั่งตัด และการปรับสภาพเครื่องจักรให้พร้อมใช้งานดังกล่าว โดยมีวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศูนย์ศิลปาชีพบางไทรเป็นผู้ดำเนินการ
นายวีระศักดิ์ วงษ์สมบัติ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และภาคเอกชน จัดบรูณาการความร่วมมือ และร่วมถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการเกษตร โดยการสลายตอซังข้าว การใช้ปุ๋ยสั่งตัด และการปรับสภาพเครื่องจักรให้พร้อมใช้งาน นำร่อง 11 วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี(วษท.)ในสังกัด สอศ. พื้นที่ต่าง ๆ ในทุกภาคของประเทศ (1.วษท.สุพรรณบุรี, 2.วษท.ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร, 3.วษท.พิจิตร, 4.วษท.กำแพงเพชร, 5.วษท.สิงห์บุรี, 6.วษท.ลพบุรี, 7.วษท.พัทลุง, 8.วษท.ขอนแก่น, 9.วษท.ปทุมธานี, 10.วษท.เชียงใหม่ และ11.วษท.อุบลราชธานี ) จัดพื้นที่แปลงสาธิตและฝึกอบรมกระจายความรู้เกษตรกรรมแนวใหม่ เพื่อใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ต้นแบบในการเพิ่มประสิทธิภาพ และความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ดิน เพื่อเพิ่มผลผลิตที่ปลอดสารพิษให้แก่เกษตรกร และประชาชนผู้บริโภค โดยการปรับลดการใช้สารเคมีจากยาปราบวัชพืช ซึ่งที่ผ่านมามีการนำเข้าไม่ต่ำกว่าปีละ 1,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มเพิ่มปริมาณขึ้นทุกปี ให้กลับมาใช้เกษตรแบบอินทรีย์ ด้วยการผสมประสานเทคโนโลยีและภูมิปัญญาไทย เข้าด้วยกัน โดยนำเทคนิคการล้มตอซังข้าวแล้วใช้วิธีชีวภาพเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์ ให้ไปย่อยสลายตอซังโดยไม่ต้องใช้วิธีการเผาตอซัง ร่วมกับการใช้ “ปุ๋ยสั่งตัด” คือการวิเคราะห์ดินในแต่ละพื้นที่ และจัดการธาตุอาหารให้เหมาะกับดินในแต่ละแหล่งที่เพาะปลูก และพืชที่จะทำการปลูก ไปเป็นตัวกำหนดสูตรปุ๋ย เอ็น-พี-เค (ไนโตรเจน-โพแทสเซียม-ฟอสฟอรัส) ซึ่งเป็นธาตุอาหารที่เหมาะสมในการเพาะปลูก นอกจากนี้ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีดังกล่าวข้างต้นจะต้องให้คำปรึกษาแนะนำ และเพิ่มความรู้ด้านการบำรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์ให้สามารถพร้อมใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งจะช่วยในการลดต้นทุนการผลิต และยังสามารถช่วยลดปัญหามลภาวะของสิ่งแวดล้อมในธรรมชาติได้ด้วย
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวต่อในขณะนี้วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี 11 แห่ง ได้กำหนดพื้นที่ และวันในการดำเนินการสาธิตและอบรมให้ความรู้ในพื้นที่ต่าง ๆ ทุกภาคทั่วประเทศโดยจะเริ่มตั้งแต่ 22 กรกฎาคม ไปจนถึงเดือนปลายเดือนสิงหาคม ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาโทร.0 2281 5555 ต่อ 1509 หรือวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี ข้างต้น
///////////////////////////////////////// กลุ่มประชาสัมพันธ์ สอศ. / 22 กรกฎาคม 2551