รูบริค (Rubric) คืออะไร คือ เครื่องมือในการให้คะแนนซึ่งประกอบด้วยเกณฑ์ด้านต่างๆ ที่ใช้พัฒนาชิ้นงานหรือการปฏิบัติ เช่น การประเมินงานเขียนจะพิจารณาวัตถุประสงค์ องค์ประกอบ รายละเอียด น้ำเสียงของการเขียนและกลวิธีการเขียน เป็นต้น
คำอธิบายระดับคุณภาพของเกณฑ์แต่ละด้านระดับดีเยี่ยมจนถึงต้องปรับปรุง
ทำไมต้องใช้รูบริค เหตุผลที่ครูและนักเรียนต้องใช้รูบริคมีหลายประการ ดังนี้
- รูบริคเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากในการเรียนการสอนและการประเมิน ช่วย
ปรับปรุงพัฒนาการปฏิบัติหรือการแสดงออกของนักเรียนในขณะเดียวกันก็ช่วยควบคุมการปฏิบัตินั้นๆ ด้วยโดยครูต้องกำหนดความต้องการหรือความคาดหวังในผลการเรียนของนักเรียนอย่างชัดเจน และแสดงให้นักเรียนทราบว่าจะทำให้ถึงความคาดหวังนั้นได้อย่างไร ซึ่งปรากฏว่าคุณภาพผลงานของนักเรียนและการเรียนรู้ มีการพัฒนาอย่างเห็นได้ชัด ข้อโต้แย้งถกเถียงที่มักพบเสมอในเรื่องการใช้รูบริคคือ การให้คำอธิบายในเรื่องการให้คุณภาพ เมื่อนักเรียนมีข้อบกพร่องตามเกณฑ์ใด ครูจะช่วยชี้แนะและบอกได้ว่าครูคาดหวังให้นักเรียนทำอะไร
- รูบริคช่วยให้นักเรียนตัดสินคุณภาพ ผลงานของตนเอง และของคนอื่นๆ อย่างมีเหตุผล
เมื่อใช้รูบริคเป็นแนวทาวการประเมินตนเองและผู้อื่น นักเรียนจะสามารชี้แนะและแก้ปัญหาเกี่ยวกับผลงาน ของตนและผู้อื่นได้อย่างตรงจุด การฝึกซ้ำๆ เกี่ยวกับการประเมินงานกลุ่มและผลงานของตนเอง ทำให้นักเรียนเพิ่มความรับผิดชอบเกี่ยวกับผลงานของตนเองมากขึ้นและยุติการถามตนเองว่า “ฉันทำเสร็จ หรือยัง”
- รูบริคช่วยลดเวลาครูในการประเมินงานของนักเรียน ผลงานที่ผ่านประเมินโดยเจ้าของ
ผลงานเองและโดดกลุ่มซึ่งยึดเกณฑ์หรือรูบริคเป็นหลักนั้น ทำให้ข้อบกพร่องเหลือมาถึงครูน้อยมาก หากมีสิ่งใดที่ต้องปรับปรุงบอกกล่าวกันก็เพียงแต่วงประเด็นนั้นๆ ในรูบริค แทนที่จะต้องอธิบายกันยืดยาว รูบริคยังช่วยให้ข้อมูลย้อนกลับแก่นักเรียนมากขึ้นเกี่ยวกับจุดเด่นและสิ่งที่ต้องปรับปรุง
- ธรรมชาติของรูบริคมีความยืดหยุ่น คือ มีระดับคุณภาพ ทำให้ครูนำไปใช้กับนักเรียนที่
คละความสามารถได้ คือนำไปใช้กับนักเรียนที่เรียนเก่งจนถึงสามารถอ่อนหรือไร้ความสามารถ โดยใช้เกณฑ์สะท้อนผลงานของเขา
- รูบริคใช้ง่ายและอธิบายได้ง่าย นักเรียนจะรู้อย่างชัดเจนว่าเขาเรียนรู้อะไรบ้าง และใน
ปลายปีก็จะประเมินได้ถูกต้อง ผู้ปกครองก็เกิดความกระตือรือร้น และรู้ชัดเจนว่าลูกหลานจะต้องทำอย่างไรเพื่อประสบความสำเร็จ
ปัจจุบันมีการจัดพิมพ์รูบริคในหนังสือต่างๆ ครูอาจนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับหลักสูตรและการสอนของตนเองได้ การยกระดับการเรียนโดยเพิ่มอิทธิพลของรูบริคก็สามารถทำได้ กระบวนการสร้างรูบริคอาจให้นักเรียนเข้ามามีส่วนร่วมในขั้นตอนต่อไปนี้
- ดูรูปแบบหรือดูตัวอย่าง ให้นักเรียนดูตัวอย่างงานที่ดีและงานที่ไม่ดี แล้วให้บอกลักษณะที่ทำให้งานดีหรือไม่ดี
- ทำรายการเกณฑ์ ให้อภิปรายตัวอย่างงานเพื่อเริ่มทำรายการเกณฑ์ที่จะใช้พิจารณาคุณภาพของงาน
- ทำระดับคุณภาพให้ชัดเจน อธิบายลักษณะคุณภาพดีที่สุดและแย่ที่สุด แล้วจึงอธิบายคุณภาพของงานระดับกลาง โดยใช้พื้นฐานความรู้เกี่ยวกับปัญหาทั่วไปและการอภิปรายเกี่ยวกับงานที่คุณภาพไม่ค่อยดี
- ฝึกให้นักเรียนใช้รูบริคที่สร้างขึ้นกับงาน ตัวอย่าง โดยให้ประเมินงานตัวอย่างที่ให้ดูในขั้นที่ 1
- กำหนดงานให้นักเรียนทำและให้ประเมินโดยตนเองและโดยกลุ่ม ในขณะที่นักเรียนทำงานก็ให้มีการประเมินตนเองและประเมินโดยกลุ่มเป็นระยะๆ
- ทบทวน ให้เวลานักเรียนทบทวนงาน โดยใช้ข้อติชมโดยขั้นตอนที่ 5
- ให้ครูประเมิน ให้ครูประเมินงานของนักเรียนโดยใช้รูบริคเดียวกับที่นักเรียนใช้
ขั้นตอนที่ 1 อาจจำเป็นต้องทำ หากงานที่ให้นักเรียนทำนั้น เป็นงานที่นักเรียนไม่คุ้นเคย
ขั้นตอนที่ 3 และ 4 มีประโยชน์แต่ต้องเสียเวลา ครูสามารถทำเองได้ โดยเฉพาะเมื่อใช้รูบริคนั้นระยะหนึ่ง การให้นักเรียนมีประสบการณ์การประเมินโดยใช้รูบริค อาจเริ่มตั้งแต่การที่ครูกำหนดระดับคุณภาพ กำหนดรายการเกณฑ์ ตรวจสอบกับนักเรียน ทบทวนและใช้รูบริคนั้นประเมินตนเองประเมินกับกลุ่ม และครูประเมิน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ 5-7
เกณฑ์ (Criteria) | คุณภาพ (Quality) | ||
ฉันทำให้คนฟังสนใจหรือไม่ | เริ่มต้นอย่างสร้างสรรค์ | เริ่มต้นอย่างน่าเบื่อ | ไม่มีการอารัมภบท |
ฉันบอกประเภทของหนังสือ หรือไม่ | บอกแน่นอน | ไม่แน่ใจ | ไม่ได้บอก |
ฉันบอกอะไรเกี่ยวกับลักษณะเด่นของหนังสือหรือไม่ | บอกและมีเนื้อหาของลักษณะ นั้นด้วย | บอกไม่ชัดเจนนัก | ไม่ได้บอก |
ฉันเล่าเรื่องฉากหรือไม่ | เล่าเรื่องเวลาและสถานที่ในเรื่อง | ไม่แน่ใจ,ไม่ชัดเจน | ไม่ได้พูดถึงเลย |
ฉันเล้าเรื่องที่น่าสนใจตอนหนึ่งหรือไม่ | เล่าและทำให้เกิดความสนใจจนอยากไปซื้ออ่าน | เล่าเพียงบางส่วนและกระโดดไปเล่าเรื่องอื่นๆ | ลืมเล่า |
ฉันบอกได้ไหมว่าใครจะชอบหนังสือเล่มนี้ | บอกแน่นอน | ข้ามไป | ลืมบอก |
ท่าทางบุคลิกฉันเป็นอย่างไร | ผมหวีเรียบร้อย ดูดี เสื้อผ้าสะอาด ยิ้มแย้ม มั่นใจ มีความสุข | ท่าทางเหมือนคนขี้เกียจ | พูดเหมือนเพิ่งลุกจากที่นอน ก้มหน้าก้มตาพูด |
น้ำเสียงฉันเป็นอย่างไร | ชัดเจน ดังและมีชีวิตชีวา | ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ | เข้าใจยากเพราะเสียงค่อย หรือเสียงแหลมไม่น่าฟัง |
รูบริคของครูแอนมีประสิทธิภาพ เพราะใช้ภาษาของเด็กๆ เอง ในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นความลำบากบางประการในการออกแบบรูบริคที่ดีด้วย ประการสำคัญ คือ ต้องหลีกเลี่ยงภาษาที่ไม่ชัดเจน เช่น “การเล่าอย่างสร้างสรรค์” ถ้ารูบริคนี่จะใช้สำหนับการสอนและประเมินจะต้องอธิบายให้เด็กๆ เข้าใจว่าประเด็นนี้หมายถึงอะไร อาจต้องมีการอภิปรายกันในกลุ่มเพื่อให้เข้าใจชัดเจนตรงกัน Patricia Croby และ Pamela Heinz ซึ่งสอนเกรด 7 ทั้งคู่ ได้แก่ปัญหาเรื่องภาษาที่ไม่ชัดเจน โดยทำรายการของวิธีต่างๆ ที่นักเรียนจะบรรลุเกณฑ์การประเมินการนำเสนอ โดยการพูดปากเปล่า ซึ่งจะให้ข้อมูลแก่นักเรียนว่าจะเริ่มต้นการพูดอย่างไร และหลีกเลี่ยงการใช้คำอธิบายยากอย่าง “การสร้างสรรค์ (creative)” ดังนี้
รูบริคสำหรับการนำเสนอโดยการพูดปากเปล่า
เกณฑ์ (Criteria) | คุณภาพ | ||
การเรียกความสนใจของผู้ฟัง | ให้รายละเอียดหรือข้อมูลที่สนุกสนาน, มีชุดของคำถาม, มีการสาธิตสั้นๆ มีอุปกรณ์ที่มีสีสันสดใสหรือบอกเหตุผลส่วนตัวว่าทำไมจึงเลือกหัวข้อนี้ | มีประโยคอารัมภบท 1-2 ประโยค แล้วจึงเริ่มพูด | ไม่สนใจที่จะเรียกความสนใจของผู้ฟังเลย เริ่มพูดทันที |
ข้อควรคำนึงประการแรกในการสร้างรูบริค คือ หลีกเลี่ยงภาษาที่ไม่ชัดเจน เช่น การเล่าอย่างสร้างสรรค์ อีกประการหนึ่งคือ หลีกเลี่ยงการใช้ภาษาเชิงปฏิเสธ หรือการใช้คำที่มีความหมายทางลบ เช่น เริ่มต้นอย่างน่าเบื่อหรือไม่น่าสนใจ แต่ให้อธิบายหรือบรรยายการกระทำที่เป็นขั้นปกติของการพูด แล้วบรรยายเปรียบเทียบระดับคุณภาพที่สูงขึ้นไปจนถึงดีที่สุด ดังนั้น เด็กจะรู้ว่าเขาทำอะไรผิด และจะทำให้ดีขึ้นได้อย่างไรในครั้งต่อไป
การแบ่งระดับขั้นคุณภาพอย่างชัดเจนเป็นเรื่องที่ท้าทาย ถ้าครูใช้เวลาคิดเกี่ยวกับเกณฑ์ และพิจารณาว่าจะรวมเป็นกลุ่มก้อนอย่างไรจึงจะดีที่สุดก็จะช่วยในการอธิบายระดับคุณภาพ ครูอาจจะใช้วิธีของครูที่สอนเกรด 5 ในเมือง Gloucester รัฐ Massachusetts ซึ่งบอกระดับคุณภาพออกเป็น 4 ระดับ คือ ใช่ (yes), ใช่ … แต่ (yes…but) ไม่ใช่…แต่ (no…but) และไม่ใช่ (no) ดังตัวอย่างของรูบริคบางส่วนที่ใช้ประเมินสมุดภาพหรือข่าวซึ่งสนับสนุนเนื้อเรื่องต่อไปนี้
รูบริคสำหรับประเมินสมุดภาพ/ข่าว (Scrapbook)
เกณฑ์ (Criteria) | คุณภาพ (Quality) | |||
ให้รายละเอียดเพียงพอ | ใช่ ฉันให้รายละเอียดเพียงพอ ที่ทำให้คนอ่านรู้สึกหรือเห็นภาพของเวลา สถานที่และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น | ใช่ ฉันให้รายละเอียดบ้าง แต่ขาดรายละเอียดที่สำคัญบางประการ | ไม่ใช่ ฉันไม่ได้ให้รายละเอียดมากเพียงพอ แต่มีนิดหน่อย | ไม่ใช่ ฉันแทบจะไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรเลย |
จะทำอย่างไรเมื่อสร้างรูบริคขึ้นมาแล้ว
การสร้างรูบริคเป็นเรื่องยาก แต่การใช้รูบริคเป็นเรื่องที่ง่ายกว่า เมื่อครูสร้างรูบริคขึ้นมาแล้วควรแจกให้นักเรียนและให้นักเรียนประเมินความก้าวหน้าของตนเองในการทำงานหรือโครงการ การให้นักเรียนประเมินนั้นไม่ใช่แค่การให้เกรดหรือระดับผลการเรียนแต่เป็นการช่วยนักเรียนในการเรียนและผลิตผลงานให้ดียิ่งขึ้น ครูควรให้เวลานักเรียนในการปรับปรุงผลงานหลังจากการประเมินตนเองแล้ว และให้ประเมินงานของผู้อื่น การประเมินงานของตนเองและผู้อื่นจะทำให้นักเรียนคุ้นเคยกับรูบริค และมุ่งมั่นทำงานให้ดีขึ้น ครูควรยอมรับการที่นักเรียนประเมินผลงานของเพื่อน โดยให้นักเรียนลงชื่อในรูบริคที่ตนใช้ ครูจะทราบว่านักเรียนมีความถูกต้องและยุติธรรมหรือไม่ และครูอาจถามเหตุผลหากการประเมินนั้นไม่ตรงกับครู การให้เวลานักเรียนแก้ไขปรับปรุงงานหลังจากการประเมินเป็นเรื่องสำคัญ
ผู้ปกครองอาจใช้รูบริคช่วยหลานทำงานที่บ้าน ท้ายที่สุด เมื่อครู้ประเมินผลงานของนักเรียนแล้วนักเรียนก็ใช้รูบริคชุดเดียวกันนั้นสำหรับการประเมินผลงานตนเองและของเพื่อน เมื่อครูคืนรูบริคที่ให้คะแนนแล้วกลับไปพร้อมกับผลงานของนักเรียน ผู้ปกครองจะทราบว่าในส่วนใดที่ทำได้ดีแล้ว และจะต้องปรับปรุงอย่างไรในครั้งต่อไป
เมื่อใช้รูบริคแล้วระดับผลการเรียนก็เป็นเรื่องง่าย ผลงานที่สะท้อนคุณภาพสูงสุดในแต่ละเกณฑ์ควรได้ A ผลงานที่สะท้อนคุณภาพต่ำสุดในทุกด้านก็ควรได้ D หรือ F แต่เนื่องจากชิ้นงานหนึ่งนั้นยากที่จะอยู่ในระดับใดระดับหนึ่งเพียงระดับเดียวในทุกเกณฑ์ ครูหลายท่านจึงใช้วิธีเฉลี่ยระดับคุณภาพ
รูบริคยังนำไปรวมในแฟ้มสะสมงาน (Portfolios) ได้ด้วย นั่นคือ ครูใช้เพื่อสนับสนุนและประเมินความก้าวหน้าในการเรียนรู้ของนักเรียน ในขณะเดียวกันนักเรียนก็ต้องคำนึงถึงรูบริคในประเด็นที่ว่า “ใช่แล้ว นี่แหละคือสิ่งที่ฉันต้องการ” (เพื่อให้ผลงานเป็นไปตามระดับคุณภาพที่กำหนด)
สรุป
การใช้รูบริคเพื่อการเรียนการสอนประโยชน์แก่ครู นักเรียนและผู้ปกครอง ตลอดจนบุคคลทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ดังนี้
สำหรับครู จะมีเกณฑ์การประเมินการปฏิบัติหรือกระบวนการทำงานและผลงานของนักเรียน โดนครูจะต้องพิจารณาว่าการประเมินการปฏิบัติหรือกระบวนการทำงานและผลงานของนักเรียนนั้นๆ จะต้องพิจารณาเรื่องใด ประเด็นใดบ้าง เช่น ในการปฏิบัติหรือกระบวนการทำงาน จะพิจารณาเกี่ยวกับการวางแผนการรวบรวมข้อมูล การทบทวน/การแก้ปัญหา ความร่วมมือของสมาชิกในกลุ่ม ฯลฯ สำหรับผลงานจะพิจารณาเกี่ยวกับความถูกต้องของเนื้อหา โครงสร้างหรือลักษณะของผลงาน ความเรียบร้อยสวยงาม ประโยชน์หรือการนำไปใช้ เป็นต้น เกณฑ์การประเมินในแต่ละด้านจะมีระดับคุณภาพ จากดีเยี่ยมจนถึงต้องปรับปรุง ซึ่งจะมีคำอธิบายลักษณะของแต่ละด้านแต่ละระดับอยู่ด้วยเพื่อให้ประเมินได้อย่างชัดเจนและยุติธรรม
สำหรับนักเรียน รูบริคที่ครูสร้างขึ้นจะช่วยให้นักเรียนรู้ว่า การปฏิบัติและผลงานที่ครูต้องการนั้นเป็นอย่างไร การที่จะทำให้ได้คุณภาพในระดับดีเยี่ยม ดีและปานกลาง จะต้องทำอย่างไร ในขณะเดียวกันเมื่อได้ผลงานและใช้รูบริคประเมินผลงานด้วยตนเองแล้ว พบว่าอยู่ในระดับที่ไม่น่าพอใจ หากต้องการปรับปรุงผลงานจะต้องทำอย่างไรจึงจะปรับปรุงผลงาน จะต้องทำอย่างไรจึงจะปรับปรุงระดับคุณภาพผลงานให้ดีขึ้น
สำหรับผู้ปกครองและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาจะต้องทราบว่านักเรียนจะต้องทำอะไรและทำอย่างไร ในช่วงแรกของการใช้รูบริคจะรู้สึกว่ายากและยุ่งยาก หากเมื่อเข้าใจและเกิดความคุ้นเคยแล้วจะมีปัญหาน้อยลง วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้มีการสร้างรูบริคง่ายขึ้น คือ ครูและนักเรียนช่วยกันคิดเกณฑ์หรือประเด็นการประเมิน และช่วยกันคิดคำอธิบายคุณภาพแต่ละระดับ โดยภาษาที่เข้าใจง่ายชัดเจนเหมาะสมกับระดับผู้เรียน รูบริคในลักษณะนี้จะทำให้นักเรียนยอมรับการประเมินได้มากขึ้น เนื่องจากเขามีส่วนร่วมในการสร้างรูบริค แม้จะยากในช่วงแรกแต่จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนานักเรียนรายบุคคลต่อไป
ที่มาข้อมูล : กิ่งกาญน์ สิริสุคนธ์ วารสารวิชาการ ปีที่ 9 ฉบับที่ 3 กรกฎาคม – กันยายน 2549