มติ ครม.9 มิ.ย.2552





ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ คือ เพิ่มเบี้ยเสี่ยงภัยชายแดนภาคใต้ อนุมัติงบประมาณโครงการคืนครูให้นักเรียน และอัตรานักการภารโรง










 src=

สรุปมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๕๒ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ ๓ เรื่อง คือ เพิ่มเบี้ยเสี่ยงภัยชายแดนภาคใต้ อนุมัติงบประมาณโครงการคืนครูให้นักเรียน และอนุมัติอัตรานักการภารโรง

เบี้ยเสี่ยงภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในเขตชายแดนภาคใต้

รมว.ศธ.กล่าวว่า เดิมได้เบี้ยเสี่ยงภัยคนละ ๑,๐๐๐ บาทต่อเดือน แต่ ครม.ได้อนุมัติงบกลางให้เพิ่มอีกคนละ ๑,๕๐๐ บาทต่อเดือน รวมเป็น ๒,๕๐๐ บาทต่อคน ต่อเดือน โดยที่ประชุม ครม.ได้ให้ความเห็นชอบสำหรับเจ้าหน้าที่สังกัด สพฐ. จำนวน ๒๑,๖๐๓ ราย เป็นเงิน ๓๘๘,๘๕๔,๐๐๐ บาท เจ้าหน้าที่สังกัด กศน. จำนวน ๙๒๐ ราย เป็นเงิน ๑๔,๒๙๒,๐๐๐ บาท และสังกัดอาชีวศึกษาจำนวน ๑๙๓ ราย เป็นเงิน ๕,๗๘๙,๐๐๐ บาท รวมทั้งสิ้น ๒๒,๗๑๖ ราย เป็นเงิน ๔๐๘,๙๓๕,๐๐๐ บาท โดยจะมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๑ ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา ๔ อำเภอ

โครงการคืนครูให้นักเรียน

ครม.ได้ให้ความเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณตั้งแต่ปี ๒๕๕๒-๒๕๕๕ ซึ่งจะมีการจ้างครูธุรการจำนวน ๑๔,๕๓๒ อัตรา โดยในปี ๒๕๕๒ ใช้งบประมาณการฝึกอบรมตามโครงการต้นกล้าอาชีพ ส่วนในปี ๒๕๕๓ ตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี และปี ๒๕๕๔-๒๕๕๕ ครม.ได้อนุมัติวงเงินเป็นงบประจำล่วงหน้าไว้ คาดว่าจะใช้งบประมาณ ๑,๖๐๐ ล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นหลักประกันว่าโรงเรียนจะได้ครูธุรการ

อนุมัติอัตรานักการภารโรง ๘,๗๔๕ อัตรา

นอกจากนี้ ครม.ยังได้อนุมัติอัตราการจ้างนักการภารโรง ๘,๗๔๕ อัตรา เพื่อลดงานในความรับผิดชอบของครู เช่นเดียวกับการจ้างครูธุรการเพื่อลดงานธุรการให้ครู ซึ่ง รมว.ศธ. มอบหมายให้สำนักงบประมาณไปดูในกรอบวงเงินในปี ๒๕๕๓-๒๕๕๕ ส่วนวิธีการดำเนินการนั้น ได้มอบหมายให้ สพฐ.พิจารณาว่าจะดำเนินการในรูปแบบใดจึงจะมีความเหมาะสม เช่น จะบรรจุเป็นลูกจ้างประจำ หรือจะจ้างเป็นบุคคลภายนอก หรือจะจัดสรรเงินให้สถานศึกษาไปบริหารจัดการเอง โดยให้ สพฐ. เป็นผู้พิจารณา ซึ่งคาดว่าใช้งบประมาณปีละ ๕๖๐ ล้านบาท.

นงศิลินี โมสิกะ
สรุป/รายงาน