ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ คือ
กระทรวงศึกษาธิการ
รมว.ศึกษาธิการ
● อนุมัติร่างแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการดำเนินการทางวินัยแก่ผู้ที่พ้นจากราชการ
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติ จำนวน 5 ฉบับ ประกอบด้วย
1. ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. 2. ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการรัฐสภา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. 3. ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. …. 4. ร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. 5. ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ
พลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ จำนวน 5 ฉบับ เป็นการแก้ไขหลักเกณฑ์การดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรงกับข้าราชการพลเรือน ข้าราชการรัฐสภา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการตำรวจ และข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา โดยหน่วยงานต้นสังกัดสามารถดำเนินการทางวินัยกับข้าราชการในสังกัดที่พ้นจากราชการไปแล้วก็ได้ หากความผิดอันเป็นมูลเหตุแห่งการกล่าวหาว่ากระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรงนั้นเกิดขึ้นระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหามีสภาพเป็นข้าราชการ แต่ได้กำหนดเงื่อนเวลาให้ผู้มีอำนาจดำเนินการทางวินัยต้องเริ่มดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรงภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ผู้นั้นพ้นจากราชการ และกรณีที่จะสั่งลงโทษต้องดำเนินการภายใน 3 ปี นับแต่วันที่ผู้นั้นพ้นจากราชการ
นอกจากนี้ ยังเป็นการกำหนดกรณีการดำเนินการทางวินัยตามที่องค์กรตรวจสอบการทุจริต ซึ่งได้แก่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือคณะกรรมการ ป.ป.ท. มีมติชี้มูลความผิดให้สามารถดำเนินการทางวินัยและสั่งลงโทษตามที่มีมติชี้มูลความผิดได้ แม้ผู้นั้นจะพ้นจากราชการไปแล้ว โดยไม่นำเงื่อนเวลาในการสอบสวนและเงื่อนไขการสั่งลงโทษดังกล่าวมาใช้บังคับ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ข้าราชการประเภทต่าง ๆ และเพื่อให้การชี้มูลความผิดวินัยขององค์กรตรวจสอบการทุจริตสามารถลงโทษทางวินัยแก่ข้าราชการตามที่ชี้มูลได้
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ การจัดทำและลงนามเอกสารโครงการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาและวิทยาศาสตร์ ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงศักยภาพมนุษย์แห่งประเทศฮังการี สำหรับปี ค.ศ. 2017-2018 ทั้งนี้ หากก่อนลงนามมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขความตกลงดังกล่าวในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญ ให้ ศธ.หารือกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องนั้น ๆ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง ทั้งนี้ ได้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้ลงนาม ในเอกสารดังกล่าว
สาระสำคัญของโครงการแลกเปลี่ยนดังกล่าวเน้นการแลกเปลี่ยนนักศึกษาและบุคลากรระหว่างสถาบันอุดมศึกษา และบุคลากร/นักวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ โดยฝ่ายฮังการีเสนอให้ทั้งสองประเทศแลกเปลี่ยนทุนการศึกษาระหว่างกัน ซึ่งฝ่ายฮังการีเสนอให้ทุนระดับปริญญาตรีและปริญญาโทแก่ประเทศไทย จำนวน 40 ทุน ในสาขาต่าง ๆ เช่น สาขาวิทยาศาสตร์การเกษตร สาขาการแพทย์และสาธารณสุขศาสตร์ สาขาวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ เป็นต้น และฝ่ายไทยเสนอทุนระดับอุดมศึกษาให้แก่ฮังการีในระยะเวลา 1 – 2 ภาคการศึกษา นอกจากนี้ ยังเน้นการวิจัยร่วม/การเปลี่ยนความคิดเห็นทางวิทยาศาสตร์ สิ่งพิมพ์ สื่อการสอน หลักสูตรและเอกสารทางการศึกษาอื่น ๆ
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ ดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
2. เห็นชอบให้สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์มีสถานะเป็นหน่วยงานภายใต้มูลนิธิจุฬาภรณ์ และให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาเป็นเงินอุดหนุนแก่มูลนิธิจุฬาภรณ์เช่นเดิม ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2530 ต่อไป
3. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับ
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ
1. ปรับปรุงส่วนงานของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยแบ่งออกเป็นสำนักงานราชวิทยาลัย สถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ และวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์
2. ปรับปรุงจำนวนของกรรมการสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และอำนาจและหน้าที่ของสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
3. ปรับปรุงการดำเนินการต่าง ๆ ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ตามพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พ.ศ. 2559 โดยตัดในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ออก เพื่อให้สอดคล้องกับการแยกภารกิจของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์
4. กำหนดให้กรณีข้าราชการหรือลูกจ้างของส่วนราชการใดสมัครใจจะเปลี่ยนไปเป็นพนักงานหรือลูกจ้างของราชวิทยาลัย ให้แจ้งความจำนงเป็นหนังสือต่อผู้บังคับบัญชา และจะต้องผ่านการคัดเลือกหรือการประเมินตามหลักเกณฑ์ที่สภาราชวิทยาลัยกำหนด ข้าราชการหรือลูกจ้างซึ่งเปลี่ยนไปเป็นพนักงานหรือลูกจ้างของราชวิทยาลัยให้ถือว่าออกจากราชการเพราะเลิกหรือยุบตำแหน่งตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการหรือกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรืออกจากราชการเพราะทางราชการยุบเลิกตำแหน่งหรือเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด และให้ได้รับบำเหน็จตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง แล้วแต่กรณี
5. กำหนดให้มีประธานอธิการบดี เป็นประธานในการประชุมหัวหน้าส่วนงานและคณะที่ปรึกษาราชวิทยาลัย ประธานอธิการบดี อาจแต่งตั้งรองประธานอธิการบดี เพื่อปฏิบัติหน้าที่แทนในกิจการต่าง ๆ ได้ คุณสมบัติการได้มาและอำนาจหน้าที่ของประธานอธิการบดีให้สภาราชวิทยาลัยเป็นผู้กำหนด
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้ง นายพีระ รัตนวิจิตร นักวิชาการศึกษาเชี่ยวชาญ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านมาตรฐานการศึกษา (นักวิชาการศึกษาทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2559 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
จิรายุทธ คามขุนทด: ถ่ายภาพ
28/2/2560