มติ ครม.17 ก.ย.2556

ศึกษาธิการ – นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2556 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ 2 เรื่อง คือ เห็นชอบร่างยุทธศาสตร์การพัฒนาศักยภาพเยาวสตรีในสถานศึกษา และการพิจารณาแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหาร สมศ.





  • เห็นชอบร่างยุทธศาสตร์การพัฒนาศักยภาพเยาวสตรีในสถานศึกษา (พ.. 2556-2559)


คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการ (ร่าง) ยุทธศาสตร์การพัฒนาศักยภาพเยาวสตรีในสถานศึกษา (พ..2556-2559) ตามมติคณะกรรมการสภาการศึกษา ครั้งที่ 3/2556 เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2556 และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ไปดำเนินการจัดทำแผนงาน/โครงการ หรือนำแผนงานโครงการที่เป็นตัวอย่างไปดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาศักยภาพเยาวสตรีในสถานศึกษาสู่การปฏิบัติต่อไป


สาระสำคัญของเรื่อง


ร่างยุทธศาสตร์การพัฒนาศักยภาพเยาวสตรีในสถานศึกษา (พ.. 2556-2559) ได้ผ่านการพิจารณาจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขให้สมบูรณ์แล้ว โดยเยาวสตรีในสถานศึกษา หมายถึง สตรีที่ศึกษาอยู่ในสถานศึกษาทั้งการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย ประกอบด้วย 6 กลุ่ม ได้แก่


(1) สตรีที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นอนุบาลในสถานศึกษา


(2) สตรีที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาในสถานศึกษา


(3) สตรีที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นในสถานศึกษา


(4) สตรีที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทสามัญ ประเภทการอาชีวศึกษาในสถานศึกษาหรือสถาบันการศึกษา หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หลักสูตรประกาศนียบัตรนาฏศิลป์ชั้นกลาง หลักสูตรประกาศนียบัตรศิลปชั้นกลาง


(5) สตรีที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับอนุปริญญา หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หลักสูตรประกาศนียบัตรนาฏศิลป์ชั้นสูง หลักสูตรประกาศนียบัตรศิลปะชั้นสูง หลักสูตรประกาศนียบัตรครูเทคนิคชั้นสูง (ปทส.) และระดับปริญญาตรี


(6) สตรีที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับสูงกว่าปริญญาตรี


ซึ่งมีแนวคิดพื้นฐานที่จะพัฒนาศักยภาพเยาวสตรีในการศึกษาทุกระดับการศึกษาที่เชื่อมโยงกับบทบาทสตรีตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงอุดมศึกษา และมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาศักยภาพเยาวสตรี ทั้งภาครัฐและเอกชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสถานศึกษานำไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาศักภาพเยาวสตรีทั้งการพัฒนาเยาวสตรีทางร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ การพัฒนาทักษะความรู้ด้านอาชีพ และศักยภาพทางเศรษฐกิจ และการสร้างครอบครัวอบอุ่นและภูมิคุ้มกันตนเองจากภัยสังคมเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติ โดยมียุทธศาสตร์หลัก 3 ยุทธศาสตร์ ดังนี้


ยุทธศาสตร์ที่ 1 เสริมสร้างภูมิปัญญา ทักษะชีวิต และค่านิยมสร้างสรรค์ ธำรงไว้ซึ่งคุณลักษณะอันพึงประสงค์ทางวัฒนธรรมของเยาวสตรีไทย


ยุทธศาสตร์ที่ 2 ส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิต มีทักษะอาชีพ พื้นฐาน และศักภาพทางเศรษฐกิจของเยาวสตรี


ยุทธศาสตร์ที่ 3 เสริมสร้างครอบครัวอบอุ่น เยาวสตรีมีภูมิคุ้มกันตนเองต่อภัยคุกคามของปัญหาสังคม






  • การพิจารณาแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหาร สมศ.


ครม.มีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการบริหารสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) (สมศ.) ชุดใหม่ เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหาร สมศ. ชุดเดิมได้ดำรงตำแหน่งมาครบ 4 ปีตามวาระแล้ว ตามที่สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) (สมศ.) เสนอ ดังนี้


1. นายมณฑล สงวนเสริมศรี ประธานกรรมการ


2. นางเพ็ชรากรณ์ วัชรพล สนิทวงศ์ ณ อยุธยา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ


3. นายเลอศักดิ์ จุลเทศ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ


4. นางวัลลิยา ปังศรีวงศ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ


5. นายสมบัติ สุวรรณพิทักษ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ


6. นายอรรถพล ใหญ่สว่าง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ


ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2556 เป็นต้นไป


บัลลังก์ โรหิตเสถียร
สรุป/รายงาน
17/9/2556