รมช.ศึกษาธิการ “พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์” ลงพื้นที่ จ.กำแพงเพชร ตรวจเยี่ยมวิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร และรับฟังการเตรียมความพร้อมการจัดตั้งศูนย์ประสานงานการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดตาก แนะการทำงาน 4 ด้าน คือ ให้ ศึกษาทบทวนเพื่อเตรียมความพร้อมของศูนย์ คำนึงถึงปัจจัยบริบทของพื้นที่ภาคเหนือ เน้น Big Data System และ อย่ามองจากกรอบอาชีวศึกษาอย่างเดียว เพื่อให้ทำงาน เป็นภาพรวมของภาค เชื่อมโยง และเข้มแข็งไปด้วยกันจนถึงระดับประเทศ มุ่งสู่การเป็น “อาชีวศึกษาที่เข้มแข็ง : Vocational Strong “
วันนี้ (22 กุมภาพันธ์ 2561 ) เวลา 10.30-12.30 น. พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เดินทางไปตรวจเยี่ยมวิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร อ.เมืองกำแพงเพชร โดยมีนาย ทองคำ ตินะลา ผู้อำนวยการวิทยาลัย และคณะครู นักศึกษาให้การต้อนรับ นำเยี่ยมชม และรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน
● ตรวจเยี่ยมวิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร
พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ กล่าวว่า วิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชรมีจำนวนนักศึกษากว่า 3,500 คน ในหลากหลายสาขา ทั้งระดับ ปวช. ปชส. จนถึงปริญญาตรีสายอาชีพ โดยในปีการศึกษา 2561 จะเปิดสอนเพิ่มเติมอีก 3 สาขา คือ ระดับ ปวช.ในสาขาจักรยานยนต์ฯ ปวส.ในสาขาแมคคาทรอนิกส์ และปริญญาตรีในสาขาเทคโนโลยีการผลิต
โอกาสนี้ พล.อ.สุรเชษฐ์ และปลัด ศธ. ได้เยี่ยมชมการเรียนการสอนบางสาขา เช่น แผนกวิชาคหกรรมศาสตร์ คณะวิชาช่างยนต์ และแผนกวิชาช่างเชื่อมโลหะ ซึ่งมีผลงานด้านสิ่งประดิษฐ์ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับชาติหลายชิ้นงานมาแล้ว คือ เตียงช่วยเหลือผู้ป่วยอัมพาต อุปกรณ์ประหยัดน้ำในสุขภัณฑ์ เครื่องกลั่นสุราประหยัดพลังงาน
ปัจจุบันกำลังพัฒนานวัตกรรม ‘เครื่องช่วยเดิน’ สำหรับผู้ป่วยหรือพักฟื้น ซึ่งถือเป็นชิ้นงานที่น่าสนใจ เพราะเก้าอี้รถเข็นพลังงานไฟฟ้า สามารถยกตัวผู้ป่วยที่นั่งอยู่บนรถเข็นให้ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนได้ และช่วยให้ผู้ป่วยสามารถก้าวเดินได้เอง (คลิ้กเพื่อชม Video เพิ่มเติม )
พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวให้กำลังใจครูและนักศึกษาที่ได้ร่วมกันพัฒนา และพร้อมสนับสนุนให้นำไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการวิจัยและการจดสิทธิบัตร เพื่อร่วมกันพัฒนาต่อไป
● รับฟังความพร้อมของการจัดตั้ง ศูนย์ประสานงานการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา
พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ ได้รับฟังความพร้อมของการจัดตั้ง ศูนย์ประสานงานการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา ที่จะจัดตั้งขึ้นใน จ.ตาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ได้รับการประกาศเป็น 1 ใน 10 เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษของประเทศ ซึ่งเป็นระเบียงเศรษฐกิจเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน
ทั้งนี้ ศูนย์ประสานงานการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดตาก (TEC TVET Career Center ) ตั้งอยู่ที่วิทยาลัยเทคนิคตาก คาดว่าจะมีความพร้อมเปิดทำการศูนย์ได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งจะช่วยทำให้การอาชีวศึกษารองรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษตาก ที่ได้วาง 4 Flagship ไว้ดำเนินการ คือ 1 ) เมืองท่าการค้าระหว่างประเทศ ที่ อ.แม่สอด 2 ) เมืองศูนย์กลางบริหารจัดการโลจิสติกส์ การศึกษา และการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ที่ อ.เมืองตาก บ้านตาก และวังเจ้า 3 ) เมืองเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ ที่ อ.พบพระ แม่ระมาด ท่าสองยาง และสามเงา 4 ) เมืองอารยธรรมแห่งขุนเขา (เมืองแห่งสุขภาพและการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์) ที่ อ.อุ้มผาง
โอกาสนี้ พล.อ.สุรเชษฐ์ ได้ ให้ข้อเสนอแนะการจัดตั้งศูนย์ ดังนี้
1 ) ศึกษาทบทวนเพื่อเตรียมความพร้อมของศูนย์ โดยขอให้คำนึงถึงบทบาทที่ชัดเจนตามชื่อ คือ เน้นไปที่การประสานงานและวางแผนการผลิตผู้เรียนอาชีวศึกษา ดังนั้น “ข้อมูล” เพื่อวางแผนผลิตกำลังคนที่เป็น Demand Side จึงถือมีความจำเป็นมาก ศูนย์จึงต้องเป็นหน่วยงานหลักที่จะประสานกับทุกฝ่ายในระดับพื้นที่ เพื่อจัดทำข้อมูลให้ถูกต้อง แม่นยำ และสอดคล้องกับสำนักงานสถิติแห่งชาติ สภาพัฒน์ สภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้า เพื่อสถานศึกษาอาชีวะต่าง ๆ สามารถนำข้อมูลไปวางแผนการผลิตกำลังคนอาชีวศึกษาในหลักสูตรต่าง ๆ ได้ตรงกับความต้องการของภาคการผลิตในแต่ละปี และสอดคล้องรองรับกับศูนย์ระดับภาค 6 ภาคอีกด้วย
ทั้งนี้ หากศูนย์มีความพร้อม ก็สามารถเปิดทำงานได้เลย โดยไม่ต้องรอพิธีเปิด แต่ในระหว่างนี้ ขอให้นำต้นแบบ ศูนย์ประสานงานการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC ) ที่ จ.ชลบุรี มาทำความเข้าใจ ศึกษาบทเรียน ปัญหาอุปสรรค การแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้นตามลำดับ ทั้งการวางแผนดำเนินการในระยะยาวและระยะสั้น
2 ) ให้คำนึงถึงปัจจัย บริบท จุดแข็ง โอกาสของพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาภาคเหนือ ที่สภาพัฒน์ฯ ได้กำหนดไว้แล้ว โดยมีประเด็นเกี่ยวข้องกับการศึกษา คือ • เพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการต่อเนื่องให้มีคุณภาพ สามารถสร้างมูลราคาเพิ่มอย่างยั่งยืน และกระจายประโยชน์อย่างทั่วถึง • เพื่อยกระดับฐานการผลิตเกษตรอินทรีย์และเกษตรปลอดภัย เชื่อมโยงสู่อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปที่สร้างมูลค่าเพิ่ม • เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและแก้ไขปัญหาความยากจน พัฒนาระบบดูแลผู้สูงอายุอย่างมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชน และยกระดับทักษะฝีมือแรงงานภาคบริการ
ดังนั้น จึงขอให้คำนึงถึงจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค และขอให้วางแผนการทำงานโดยมองไปที่ “ประชาชน” เป็นศูนย์กลางว่าจะได้รับประโยชน์อะไรจากเรา จึงขอให้คิดให้ครบ รวมทั้งคำนึงถึงความสอดคล้องกับศูนย์หลักของภาคเหนือ ซึ่งตั้งอยู่ที่ จ.พิษณุโลก แต่มีศูนย์ย่อยกระจายใน 17 จังหวัดภาคเหนือ เช่นเดียวกับศูนย์แห่งนี้ รวมทั้งศูนย์ระดับสถานศึกษาที่จะต้องดำเนินการตามความพร้อมต่อไป
3 ) เน้น Big Data System เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก จากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ประสานงานการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่วิทยาลัยกาญจนาภิเษกปัตตานี ซึ่ง ผศ.บรรพต วิรุณราช อดีตคณบดีวิทยาลัยพาณิชยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ได้นำวิธีการทำงานด้านวิชาการไปเริ่มต้นโดยใช้การนำข้อมูลเข้าระบบ Big Data System ส่งผลช่วยให้นำข้อมูล Demand Side ที่โยงไปถึงกับสถานประกอบการและการทำงานประชารัฐได้ทันที ดังนั้น หากเรานำ Big Data ของศูนย์ 6 ภาค ก็จะนำไปสู่กลายเป็นข้อมูลของกระทรวงศึกษาธิการที่มีความสมบูรณ์มากขึ้น อันจะนำไปสู่ Big Data ของรัฐบาล จึงถือว่าเรื่องนี้มีความสำคัญมากที่ศูนย์ต้องจัดทำ Big Data ให้แม่นยำตรวจสอบได้จริง
4 ) อย่ามองจากกรอบอาชีวศึกษาอย่างเดียว ในการวางแผนการทำงานต้องมองให้รอบด้าน เพื่อให้เกิดการทำงานเชื่อมโยงทั้งระดับอุดมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา ลงไปจนถึงประถมศึกษา เพื่อวางแผน Career Path ของเด็กนักเรียน โดยนำโครงการที่ได้ผลดีมาดำเนินการให้เกิดความต่อเนื่อง เช่น โครงการทวิศึกษา (Dual Education) หรือโครงการเรียนร่วมหลักสูตรอาชีวศึกษาและมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาด้านอาชีวศึกษาแก่ประชาชนวัยเรียนและวัยทำงาน และเพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายไปสู่นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในการเข้าสู่หลักสูตรอาชีวศึกษา โดยขอให้เข้าไปประชาสัมพันธ์การศึกษาต่อด้านอาชีวศึกษาในโรงเรียน และให้ความร่วมมือกับโรงเรียนในการพัฒนาการเรียนการสอนอาชีวศึกษาในโรงเรียนให้มีคุณภาพ ซึ่งจะมีส่วนเพิ่มสัดส่วนผู้เรียนอาชีวศึกษาให้มากขึ้น
ด้านนายการุณ สกุลประดิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงด้วยว่า ขอให้คำนึงถึงผู้เรียน กศน. ซึ่งจะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญ เพราะเป็นผู้ที่ทำงานแล้ว สถานศึกษาอาชีวะอาจจะจัดหลักสูตรเป็นภาคทไวไลท์ก็ได้ เพื่อให้คนกลุ่มนี้เข้ามาสู่ระบบการผลิตและพัฒนากำลังคนร่วมกันได้มากขึ้น
“หากเราคิดวันนี้ เริ่มต้นวันนี้ ก็ยังไม่สาย แต่ถ้าเราก้าวไปทีละวันๆ แล้วไม่ทำ ก็จะสาย ขอให้กำลังใจทำงานศูนย์ให้เป็นรูปธรรม เป็นภาพรวมของภาคเหนือให้ได้ ไม่ใช่ทำแค่ในจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง เพราะจะเกิดเป็นภาพรวมของภาค เชื่อมโยง และเข้มแข็งไปด้วยกันจนถึงระดับประเทศ มุ่งสู่การเป็น “อาชีวศึกษาที่เข้มแข็ง : Vocational Strong “ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับนานาชาติได้ต่อไป” พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว
ตรวจเยี่ยมวิยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร
ประชุมรับฟังความพร้อมการจัดตั้ง ศูนย์ประสานงานการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดตาก
Written by บัลลังก์ โรหิตเสถียร Photo Credit ธเนศ งานสถิร Editor บัลลังก์ โรหิตเสถียร 22/2/256 1