7 ตัวแทนภาคีนักเรียนเข้าพบรมต.ศธ. ถกขอเปิดเวทีแสดงความเห็นอย่างอิสระ มีครูร่วมรับฟัง พร้อมเสนอให้แก้ไขการข่มขู่คุกคามในโรงเรียน ผู้ปกครองโฟนอินฟ้องณัฎฐพลกลางที่ประชุม ร้องลูกถูกคุกคาม
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2563 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่ากระทรวงศึกษาธิการ ต้อนรับกลุ่มภาคีนักเรียนแห่งประเทศ (AST) และ กลุ่ม Uncommon International Group (UNG) จำนวน 7 คน ซึ่งระบุว่าเป็นตัวแทนของเด็กนักเรียนจาก 109 โรงเรียน ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุมนุมของเด็กนักเรียนที่ผ่านมา แต่ต้องการนำเสนอปัญหาต่อนายณัฎฐพลถึงกรณีเด็กนักเรียน และบุคลาการทางการศึกษาถูกคุกคาม ข่มขู่ภายในโรงเรียน และความไม่โปร่งใสของข้อมูลที่รายงานถึงกระทรวงศึกษาธิการที่อาจไม่ถูกต้อง รวมถึงร้องขอให้มีการเปิดเวทีการแลกเปลี่ยน และแสดงความคิดเห็นของเด็กนักเรียน ผ่านชั่วโมงอิสระภายในโรงเรียน โดยมีคุณครูเป็นผู้สังเกตการณ์และรับฟังปัญหาเพื่อลดความรุนแรง และสร้างการมีส่วนร่วม รวมถึงการจัดเวทีแสดงความคิดเห็นของตัวแทนนักเรียกจากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศเกี่ยวกับเพื่อสร้างความเข้าใจ และหาแนวทางแก้ไขปัญหาของระบบการศึกษาร่วมกัน
ทั้งนี้นายณัฏฐพลกล่าวแสดงความยินดีที่เด็กนักเรียนกล้าแสดงความคิดเห็น โดยกล่าวว่า ตนพร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็นของน้องๆ ตลอดเวลา เพราะเห็นถึงความกล้าในการแสดงความคิดเห็น และห่วงใยถึงอนาคตของการศึกษาไทย ซึ่งข้อเรียกร้องต่างๆ หลายๆ เรื่องมาถูกทาง ซึ่งตนต้องการรับฟังความเห็นหลากหลาย เพื่อเป็นข้อมูลสนับสนุนสิ่งที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของกระทรวงศึกษาธิการ
“สำหรับการเปิดเวทีเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ผมพร้อม และยินดีที่จะได้รับข้อคิดเห็นต่างๆ เพื่อนำมาแก้ไข แต่อยากให้มีการพูดคุยกันทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น เราก็ต้องรับฟังความคิดเห็นของครูด้วย รวมถึงต้องฟังทางด้านกระทรวงศึกษาฯ เช่นกันว่า ได้ดำเนินการอะไรไปบ้างแล้ว ซึ่งการแสดงความเห็น แม้จะมีที่แตกต่างกัน แต่ก็สามารถพูดคุยกันด้วยสันติวิธี ไม่ก้าวร้าว ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันได้เป็นอย่างมาก เท่าที่ผมได้รับฟังจากน้องๆ ก็เห็นว่า น้องๆ ไม่ได้พูดถึงเรื่องของตัวเองเลย แต่การสื่อสารจากนี้ไปถือเป็นเรื่องสำคัญ ต้องเกลาการสื่อสารเพื่อให้นักเรียนทั่วประเทศเข้าใจตรงกัน” นายณัฏฐพล กล่าว และว่า ขณะนี้ตนเองได้ทำช่องทางเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากน้องๆ แต่ช่องทางนี้ ต้องทำการตรวจสอบอย่างจริงจัง เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และตัวเด็กนักเรียนจากการสื่อสาร หรือเข้าร้องเรียน ซึ่งหากทำแล้วจะต้องไม่มีความผิด