พบครูบดินทรเดชาฯ

ศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงศึกษาธิการ – เมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๕ อาจารย์โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) จำนวน ๔ ราย พร้อมด้วย ดร.สิงห์ทอง บัวชุม ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เข้าพบศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อรายงานให้รับทราบถึงการแก้ปัญหาการรับนักเรียนของโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) และรายงานกรณีที่โรงเรียนดัง ๒๐ แห่ง เตรียมฟ้องร้องเลขาธิการกลุ่มเครือข่ายภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชันแห่งชาติ กรณีกล่าวอ้างว่าโรงเรียนดังกล่าวมีการเรียกแป๊ะเจี๊ยะ

 src=

รมว.ศธ. กล่าวว่า ได้แสดงความขอบคุณต่ออาจารย์โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ที่ได้ช่วยแก้ปัญหาการดูแลการรับนักเรียนจนคลี่คลาย ส่วนกรณีที่โรงเรียน ๒๐ โรง ถูกนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการกลุ่มเครือข่ายภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชันแห่งชาติ (ภตช.) ยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของโรงเรียน โดยอ้างว่าโรงเรียนดังกล่าวมีการเรียกแป๊ะเจี๊ยะ ซึ่งขณะนี้โรงเรียนดังทั้ง ๒๐ โรง ที่ถูกเครือข่าย ภตช.กล่าวหาได้เริ่มยื่นฟ้องร้องเลขาธิการ ภตช.แล้วนั้น

ในประเด็นนี้ รมว.ศธ.ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ตนพูดมาเสมอว่าส่งเสริมให้ทุกคนมีโอกาสต่อสู้เพื่อความยุติธรรม หากไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือถูกฟ้องร้อง เพื่อกระทรวงศึกษาธิการไทยจะได้ใสสะอาดในเรื่องคอรัปชัน ในเรื่องนี้ก็เช่นกัน ถือเป็นสิทธิของโรงเรียนที่จำเป็นต้องต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม เกียรติยศ ศักดิ์ศรี ไม่ยอมให้ใครมาข่มขู่ทำร้าย และหากทุกคนทำอย่างนี้ จะมีความเข้มแข็งเหมือนประเทศตะวันตกที่เจริญแล้ว

สำหรับการแก้ปัญหาการรับนักเรียนในปีต่อไปนั้น สพฐ.และโรงเรียนที่มีชื่อเสียงควรจะต้องวางแผนการรับนักเรียน ซึ่งอาจจะต้องขยายโอกาสสำหรับนักเรียนที่ต้องการเรียนชั้น ม.๔ ในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงมากขึ้น เหมือนร้านอาหารอร่อย ที่สามารถขยายร้านเพิ่มโดยไม่เสียคุณภาพไป และหากโรงเรียนใดมีความพร้อมอาจขยายห้องเรียนในรอบบ่ายหรือกลางคืนก็ได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ การรับประกันถึงคุณภาพของโรงเรียนนั้นๆ เช่น หากบดินทรเดชาฯ มีความพร้อมที่จะขยาย อาจมีบดินทรเดชาฯ เกือบทุกจังหวัดก็ได้ แนวทางเช่นนี้จะเป็นการกระตุ้นให้นักเรียนตั้งใจเรียน และเป็นการให้โอกาสเด็กในต่างจังหวัดได้มาเรียนในโรงเรียนดีๆ บ้าง ไม่จำเป็นต้องกระจายทรัพยากรไปยังโรงเรียนห่างไกลที่มีคนเรียนน้อย แต่เปลี่ยนเป็นการรวมทรัพยากรและจัดสรรให้กับโรงเรียนใหญ่ได้มากขึ้น เพื่อให้สามารถจัดการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดังนั้นงบประมาณปี ๒๕๕๖ จะระบุให้มีการเพิ่มห้องเรียนชั้น ม.๔-๖ ของโรงเรียนดังๆ มากขึ้น เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาความต้องการของผู้ปกครองที่ต้องการให้บุตรหลานเรียนในโรงเรียนดีๆ แต่ไม่ใช่หมายถึงนักเรียนชั้น ม.๓ จะเข้า ม.๔ โรงเรียนเดิมทุกคนได้โดยอัตโนมัติ แต่ต้องเป็นไปตามเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และความต้องการของพ่อแม่ผู้ปกครองด้วย อย่างไรก็ตามเห็นว่าควรจะมีการสอบแข่งขันเช่นเดิมไว้ด้วย

ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการ กพฐ. ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า รมว.ศธ.ได้เชิญอาจารย์ทั้ง ๔ ท่านมาหารือเพื่อรับทราบความคืบหน้า สถานการณ์การรับนักเรียน ซึ่งได้รับทราบว่าคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น พร้อมทั้งได้แสดงความขอบคุณอาจารย์โรงเรียนบดินทร์เดชาฯ ที่ได้ร่วมมือแก้ปัญหาการรับนักเรียน ซึ่งเมื่อวานนี้ผู้ปกครองของนักเรียน ๕๒ ราย ได้ไปยื่นความประสงค์ขอเข้าเรียน ทางโรงเรียนก็ได้ดำเนินการให้จนเป็นที่เรียบร้อย สพฐ.ยืนยันว่าพยายามดำเนินการให้การรับนักเรียนยุติลงและเด็กเข้าเรียนได้ตามปกติโดยเร็ว 

กรณีนโยบายการขยายห้องเรียนรอบบ่าย หรือรอบค่ำนั้น สพฐ.จะต้องประชุมระดมความคิด
และสรุปแนวทางการรับนักเรียน
เพื่อจัดทำเป็นแนวปฏิบัติการรับนักเรียนในปีการศึกษาต่อไป

ซึ่งต้องยอมรับว่าการรับนักเรียนในปีนี้ต่างจากการรับนักเรียนเมื่อ ๓-๔
ปีที่ผ่านมา
ที่จะต้องมุ่งเน้นจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับอุปสงค์ของผู้เรียนมากขึ้น
แต่ไม่ใช่หมายความว่านักเรียนทุกรายสามารถที่จะเข้าเรียนในโรงเรียนดังๆ
ได้โดยอัตโนมัติ แต่นักเรียนจะต้องรับผิดชอบผลการเรียนของตนเองด้วย

ซึ่งการดำเนินการอย่างนี้จะช่วย ๒ กรณีคือ ๑)
ผ่อนคลายที่นั่งของโรงเรียนดังลง
โดย สพฐ.จะขายห้องเรียน สร้างอาคารเพิ่ม ขยายวิทยาเขต
พัฒนาโรงเรียนคู่ขนาน โดยใช้ชื่อของโรงเรียนดัง ๒)
ต้องประกาศให้สาธารณชนทราบล่วงหน้าว่า นักเรียนที่ต้องการเข้าโรงเรียนดัง
จะต้องรับผิดชอบผลการเรียนของตนเอง
ดังนั้นหากนักเรียนรายใดยังมีคะแนนเฉลี่ยไม่ถึงเกณฑ์
จะได้เร่งพัฒนาตนเองขึ้นมาให้เข้าหลักเกณฑ์ที่กำหนดได้ทัน
ซึ่งเกณฑ์คะแนนต่างๆ จะไม่ยากจนเกินไป

ดังนั้น ต่อไปแนวทางการรับนักเรียนของ สพฐ.จะต้องเป็นเรื่อง Demand-Supply ซึ่งแต่ละโรงเรียนต้องวางแผนคาดคะเนจำนวนนักเรียนที่สนใจจะเข้ามาเรียนเอง โดยกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำในความรับผิดชอบของนักเรียนเองด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการร้องเรียนต่างๆ ตามมาอีก

ทั้งนี้ สำหรับการเตรียมความพร้อมด้านวิชาการในการเรียนรอบบ่ายของโรงเรียนบดินทรเดชาฯ นั้น ได้จัดทำหลักสูตรพร้อมแล้ว โดยจะเป็นการเรียนทั่วไป จะมีเนื้อหาหลักสูตรเหมาะสมกับนักเรียนกลุ่มนี้ที่ผลการเรียนไม่สูงนัก โดยจะเป็นวิชาพื้นฐานประมาณ ๔๑ หน่วย วิชาเลือก ๓๖ หน่วย รวม ๗๗ หน่วย นอกจากนี้การสอนจะจัดสาระเพิ่มเติมให้ด้วย เช่น การเรียนภาษาอังกฤษพื้นฐานกับครูต่างชาติเช่นเดียวกับนักเรียนปกติ ซึ่ง สพฐ.พร้อมจะให้การสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อจัดหาครูต่างชาติมาสอน ส่วนการจัดเวลาเรียนนั้น ในวันจันทร์จะเป็นกิจกรรมจิตสาธารณะ ๓ ชั่วโมง ตั้งแต่ ๑๔.๔๐ เป็นต้นไป ส่วนการเรียนภาควิชาการเรียนวันอังคาร-ศุกร์ เวลา ๑๒.๔๐-๑๖.๕๐ น.และในวันเสาร์เวลา ๘.๐๐-๑๖.๕๐ น.โดยโรงเรียนจะจัดห้องเรียนประจำที่ศูนย์เกษตรให้เด็กกลุ่มนี้ได้เรียน พร้อมทั้งตั้งงบประมาณจ่ายค่าสอนนอกเวลาสำหรับครูที่มาสอนเด็กที่เรียนรอบบ่ายให้ด้วย

บัลลังก์ โรหิตเสถียร
สรุป/รายงาน

More Photos : ข่าวที่ 148/2555