สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) –
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานประชุม ก.พ.อ.
โดยมีศาสตราจารย์พิเศษทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ร่วมประชุม
การทบทวนขอรับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเพื่อพัฒนาสถาบันอุดมศึกษากลุ่มใหม่
รมว.ศธ.กล่าวว่า จากการที่ ก.พ.อ.ได้มีการศึกษาเรื่อง สภาพปัญหาและข้อเสนอเพื่อการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษากลุ่มใหม่ ของคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเกี่ยวกับการพิจารณาสถาบันอุดมศึกษากลุ่มใหม่ พบว่าสถาบันอุดมศึกษากลุ่มใหม่จำนวน 52 แห่ง ซึ่งประกอบด้วยมหาวิทยาลัยราชภัฏ 40 แห่ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 9 แห่ง รวมทั้งมหาวิทยาลัยที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะอีก 3 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ มหาวิทยาลัยนครพนม และสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ประสบปัญหาในด้านความไม่เพียงพอด้านบุคลากรและวัสดุครุภัณฑ์ งบประมาณ คุณภาพบัณฑิตที่จบจากสถาบันอุดมศึกษากลุ่มใหม่ จึงได้ทำเรื่องขอรับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา ซึ่งต่อมาทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ส่งเรื่องกลับมาให้ ศธ.พิจารณาแผนการดำเนินการที่ชัดเจน โดยให้รับความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการด้วย
คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเกี่ยวกับการพิจารณาสถาบันอุดมศึกษากลุ่มใหม่ จึงได้นำเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาในครั้งนี้ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ การเพิ่มจำนวนบุคลากรสายวิชาการที่มีคุณวุฒิปริญญาเอกเพิ่มขึ้นจากเดิม 2,022 คน เป็น 5,055 คนในเวลา 5 ปี
ที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่า
การเสนอขอปรับปรุงอัตราเงินเดือนของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาเพิ่มขึ้นร้อยละ 8
ที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่า หากมีการแก้ไขเยียวยาโดยขอรับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงอัตราเงินเดือนของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาเพิ่มขึ้นจำนวนทั้งสิ้น 19,696 คน จะทำให้เกิดผลกระทบต่อการปรับเงินเดือนของพนักงานมหาวิทยาลัยสายผู้สอน/บุคลากรในส่วนราชการอื่นๆ หรือไม่ เพราะจะต้องขอรับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเงิน 2,332 ล้านบาท ในกรณีที่จ่ายย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2554 ถึง 30 กันยายน 2557 หรือจัดสรรเพิ่ม 700 ล้านบาท หากมีการปรับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2556 ถึง 30 กันยายน 2557
จึงเห็นควรส่งเรื่องให้คณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอรัฐมนตรีพิจารณาว่า จะมีผลกระทบต่อหน่วยงานอื่นหรือไม่อย่างไร รวมทั้งในส่วนของ ศธ.ที่กำลังพิจารณาเรื่องนี้ในภาพรวมกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอยู่แล้ว ก็จะทำคู่ขนานกันไป
รายงานข้อมูลความเหลื่อมล้ำ เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษา
ศูนย์ประสานงานบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ได้รายงานข้อมูลความเหลื่อมล้ำ เพื่อขอความเป็นธรรมให้บุคลากรในสถาบันอุดมศึกษา คือ
– กรณีปัญหาของพนักงานมหาวิทยาลัย 8 ข้อ คือ สัญญาจ้าง การจ้างทดแทนข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย การขอรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ สิทธิประโยชน์ การเลือกปฏิบัติ การรักษาพยาบาล การย้าย และสิทธิในการทำนิติกรรมต่างๆ
– กรณีปัญหาของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ที่ต้องการให้มีการปรับเพิ่มเงินเดือน
– กรณีปัญหาของบุคลากรทางแพทย์ในสถาบันอุดมศึกษา โดยเฉพาะพยาบาลวิชาชีพ ที่ไม่สามารถบรรจุให้เป็นข้าราชการได้ ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำกับ
ที่ประชุมเห็นว่า กรณีพนักงานมหาวิทยาลัยนั้น จะต้องมีการรับฟังความเห็นจากกรรมการ ก.พ.อ. สภาสถาบันอุดมศึกษา ผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษา สภาคณาจารย์ คณะกรรมการบริหารงานบุคคลประจำสถาบันอุดมศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้แล้วเสร็จ ก่อนรวมเรื่องนำเสนอต่อที่ประชุม ก.พ.อ.เพื่อพิจารณาอีกครั้ง ส่วนข้อมูลความเหลื่อมล้ำอื่นๆ นั้น ก็จะมีการจัดกลุ่มให้เป็นหมวดหมู่ เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาแนวทางดำเนินการที่เหมาะสม ก่อนนำเสนอ ก.พ.อ.พิ
รมว.ศธ.กล่าวฝากในที่ประชุมด้วยว่า ในขณะนี้มีเรื่องที่ข้าราชการ ครู และบุคลากรทางการศึกษา ร้องเรียนมาที่กระทรวงศึกษาธิการหลายเรื่อง เรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือหน่วยงานต่างๆ ก็ขอให้ช่วยเร่งพิจารณาดำเนินการ โดยไม่จำเป็นต้องให้เกิดการชุมนุมเรียกร้อง
บัลลังก์ โรหิตเสถียร
สรุป/รายงาน
18/10/2556