ผลประชุม ก.ค.ศ.ครั้งที่ 11/2562นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 11/2562 เมื่อวันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน 2562 โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช และนางกนกวรรณ วิลาวัลย์) เข้าร่วมประชุม ว่าที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่สำคัญ ดังนี้ อนุมัติกรอบอัตรากำลังของศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา 15 แห่ง 341 อัตรา ที่ประชุมอนุมัติการกำหนดกรอบอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา สังกัดสำนักงาน กศน. จำนวน 15 แห่ง ในระยะเวลาเริ่มแรก รวมทั้งสิ้น 341 อัตรา ประกอบด้วย
ทั้งนี้ เพื่อให้การบริหารจัดการและการเรียนการสอนของศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาทั้ง 15 แห่ง เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ส่งผลต่อคุณภาพของนักเรียนและนักศึกษาทั้งในระบบและนอกระบบ สนองตอบยุทธศาสตร์ชาติในการให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา สร้างโอกาส และความเสมอภาคทางการศึกษา อีกทั้งศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาหลายแห่งข้างต้น มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อควาเรียม พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ฯลฯ ส่งผลให้ภาระงานด้านธุรการเพิ่มมากขึ้นด้วย อนุมัติอัตราว่างจากเกษียณ 738 อัตรา ที่ประชุมอนุมัติการจัดสรรอัตราว่าง จากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และการจัดสรรแทนอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการ ด้วยการจ้างรูปแบบอื่น (พนักงานราชการ) เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 (ครั้งที่ 2) จำนวน 738 อัตรา ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ดังนี้
โดยให้ส่วนราชการดังกล่าว เกลี่ยอัตรกำลังที่ได้รับอนุมัติไปกำหนดตำแหน่งในหน่วยงานการศึกษา ตามหลักเกณฑ์ ดังนี้ 1) ให้กำหนดจำนวนและประเภทตำแหน่งตามเงื่อนไขที่ คปร. กำหนด โดยเคร่งครัด 2) ตำแหน่งที่กำหนดจะต้องมีจำนวนและประเภทตำแหน่งตามที่ ก.ค.ศ. อนุมัติ 3) ให้กำหนดตำแหน่งในหน่วยงานการศึกษาที่มีอัตรากำลังไม่เกินกรอบอัตรากำลัง หรือเกณฑ์มาตรฐานอัตรากำลังที่ ก.ค.ศ. กำหนด 4) ในการใช้อัตราที่ได้รับการจัดสรรคืนอัตรากำลังว่างจากผลการเกษียณอายุราชการเมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ให้ใช้อัตรากำลังได้ไม่ก่อนวันที่ ก.ค.ศ. มีมติอนุมัติ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบ ให้สงวนอัตราตำแหน่งว่างจากการเกษียณอายุราชการ ของตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2) (ประเภทวิชาการและทั่วไป) สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 1 อัตรา ไว้ก่อน เพื่อเสนอขอทบทวนไปยัง คปร. นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้สำนักงาน ก.ค.ศ. เสนอเหตุผล ความจำเป็น เพื่อทบทวนหลักเกณฑ์การจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค.(2) ตามที่ คปร. กำหนด ในส่วนของตำแหน่ง ศึกษาธิการจังหวัด และรองศึกษาธิการจังหวัด ซึ่งเป็นตำแหน่งประเภทอำนวยการ ให้จัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการฯ คืนส่วนราชการเดิมทั้งหมดต่อ คปร. ต่อไปด้วย เห็นชอบยกเว้นคุณสมบัติคัดเลือก รอง/ผอ.สถานศึกษา สพฐ. (ว8) ที่ประชุมเห็นชอบให้ยกเว้นคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสถานศึกษา และผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ (ว 8 /2562) โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
ทั้งนี้ เพื่อให้ได้ผู้บริหารสถานศึกษาที่มีความรู้ ความสามารถ และศักยภาพในการเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา และนำนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงศึกษาธิการไปสู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ อนุมัติแต่งตั้งอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ. สป. 5 ราย ที่ประชุมอนุมัติการแต่งตั้งอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 5 ราย แทนผู้ดำรงตำแหน่งเดิมเพื่อความเหมาะสม และเพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งเดิมที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว ดังนี้
เห็นชอบให้สงวนอัตราตำแหน่งว่างครูผู้ช่วย รองรับทุน ม.ท.ศ. ที่ประชุมเห็นชอบหลักการ ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สงวนอัตราตำแหน่งว่างและอัตราเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย เพื่อรองรับการบรรจุและแต่งตั้งนักเรียนทุนโครงการทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร (ม.ท.ศ.) ซึ่งเป็นนักเรียนทุนที่เรียนดี ประพฤติดี มีคุณธรรม และได้ผ่านการฝึกและการพัฒนาศักยภาพด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ที่จบการศึกษาแล้ว เข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย โดยมุ่งเน้นในสาขาที่เป็นความต้องการของประเทศ และสาขาที่ขาดแคลน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด ในระยะเริ่มแรก จำนวน 5 อัตราต่อปี หรือตามจำนวนที่คณะกรรมการ ม.ท.ศ. มีมติ เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยเริ่มตั้งแต่ปีการศึกษา พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป เห็นชอบกรอบอัตรากำลังครู สถาบันการอาชีวศึกษาภาคกลาง ที่ประชุมเห็นชอบกำหนดกรอบอัตรากำลัง คณาจารย์ในสถาบันการอาชีวศึกษาภาคกลาง 4 สาขาวิชาเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ (ต่อเนื่อง) และสาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์ (ต่อเนื่อง) จำนวน 10 อัตรา เพื่อรองรับการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรี สายเทคโนโลยีหรือสายปฏิบัติการในสาขาวิชาดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อให้สถาบันการอาชีวศึกษาภาคกลาง 4 สามารถจัดการเรียนการสอนระดับปริญญาตรี สายเทคโนโลยีหรือสายปฏิบัติการได้อย่างมีคุณภาพ เกิดประสิทธิผล นักศึกษามีความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติในสาขาวิชาเฉพาะทาง เพื่อรองรับความต้องการของสถานประกอบการ ตลาดแรงงานภาคอุตสาหกรรมและระบบโลจิสติกส์ในเขตพื้นที่แนวระเบียงเศรษฐกิจฝั่งตะวันตก (WEC) ต่อไป อนุมัติการตัดโอนอัตราสายงานการสอน สพฐ.ที่ว่างอยู่ เป็นตำแหน่งครูผู้ช่วย กศน.-สอศ. ที่ประชุมอนุมัติให้กำหนดตำแหน่งและอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยการตัดโอนอัตราเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่ว่างอยู่ กำหนดเป็นตำแหน่งครูผู้ช่วยในสถานศึกษา จำนวน 1,843 อัตรา สังกัดสำนักงาน กศน. (1,023 อัตรา) และสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (820 อัตรา) โดยมีเงื่อนไขในการใช้ตำแหน่งเพื่อการบรรจุและแต่งตั้ง คือ ให้ได้รับเงินเดือนอันดับครูผู้ช่วย ตามวุฒิที่ ก.ค.ศ. กำหนด โดยอาศัยเบิกในอัตราเงินเดือนที่กำหนด และอัตราเงินเดือนที่กำหนดนี้ เมื่อนำไปใช้บรรจุและแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งครูผู้ช่วยแล้ว อัตราเงินเดือนที่เหลืออยู่ไม่สามารถนำไปใช้เป็นอัตราเงินเดือนสำหรับตำแหน่งว่าง ไม่มีเงิน หรือนำไปกำหนดเป็นตำแหน่งเพิ่มใหม่ได้ ทั้งนี้ ให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการนำเรื่องการตัดโอนอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน สังกัด สพฐ. ไปกำหนดเป็นตำแหน่งครูผู้ช่วย ในสถานศึกษาสังกัดสำนักงาน กศน. และสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เสนอคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค พิจารณาอนุมัติต่อไป อนุมัติกรอบอัตรากำลัง รร.วิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ที่ประชุมอนุมัติการกำหนดตำแหน่ง กรอบอัตรากำลัง มาตรฐานตำแหน่ง ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2) ในโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย เนื่องจากเห็นว่าเป็นสถานศึกษาที่จัดการศึกษาด้วยหลักสูตรเฉพาะสำหรับนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ในลักษณะโรงเรียนประจำ เพื่อเป็นการเตรียมกำลังคนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (STEM) ให้มีประสิทธิภาพ เป็นการยกระดับคุณภาพการศึกษา และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล ดังนี้
อนุมัติย้าย ผอ.สพท.25 ราย ที่ประชุมอนุมัติย้ายและแต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) จำนวน 25 ราย แบ่งเป็น ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) 17 ราย และผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 8 ราย ดังนี้
Top
|
ข่าว ศธ. 360 องศา
