ปลดออกจากราชการ

ศึกษาธิการ – เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2557 นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน กรณีกระทรวงศึกษาธิการ มีคำสั่งปลดผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ ออกจากราชการ

จากกรณีที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ทำหน้าที่ อ.ก.พ.กระทรวงศึกษาธิการ ที่มีนายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน ได้มีมติปลดนางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการสภาการศึกษา ออกจากราชการ กรณีเอกสารจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์อาชีวศึกษา โครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 (SP2) สูญหายและส่อว่าอาจมีความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ซึ่งต่อมา ศธ.ได้แจ้งมติที่ประชุม อ.ก.พ.สกศ.และส่งร่างคำสั่งหนังสือปลดออกหารือยังไปคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นั้น

รมว.ศธ.กล่าวว่า กกต.ได้มีหนังสือถึง รมว.ศธ.ลงวันที่ 17 มีนาคม 2557 เรื่อง ขอความเห็นชอบการสั่งลงโทษปลดนางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ออกจากราชการ ซึ่งสำนักงาน กกต.ขอเรียนว่า ในการประชุมคณะกรรมการ กกต. ครั้งที่ 35/2557 เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2557 ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวแล้ว ที่ประชุมมีมติเห็นชอบกรณีที่ รมว.ศธ.มีคำสั่งลงโทษปลดนางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ออกจากราชการ

ดังนั้น รมว.ศธ.จึงได้ลงนามในคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ เลขที่ สร 269/2557 ลงวันที่ 18 มีนาคม 2557 เรื่อง ลงโทษปลดนางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ออกจากราชการ โดยอ้างถึงข้อกล่าวหา และผลการประชุม อ.ก.พ. กระทรวงศึกษาธิการ และความเห็นชอบของ กกต. จึงให้ลงโทษปลดข้าราชการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2557 เป็นต้นไป อนึ่ง ผู้ถูกลงโทษมีสิทธิ์อุทธรณ์คำสั่งลงโทษนี้ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งนี้

ทั้งนี้ ศธ.ได้แจ้งรายงานผลการพิจารณาลงโทษข้าราชการไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อขอให้นำความกราบบังคมทูลฯ เพื่อให้มีพระบรมราชโองการให้นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการสภาการศึกษา นับตั้งแต่วันที่ รมว.ศธ. มีคำสั่งตามรายละเอียดที่ส่งมาด้วย พร้อมกับมีหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (เลขาธิการ ก.พ.) เพื่อทราบและพิจารณาดำเนินการต่อไปแล้ว

บัลลังก์ โรหิตเสถียร
สรุป/รายงาน
19/3/2557