ได้เวลาปล่อยพลังโชว์ความสามารถทางด้านการใช้ภาษาอังกฤษอีกครั้งกับการแข่งขันโครงการ Singha English Challenge 2016 เวทีประกาศศึก ซึ่งบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด จับมือพันธมิตร อย่างสถาบันสอนภาษา บริติช เคานซิล ประเทศไทย เปิดโอกาสให้เหล่าบรรดานักศึกษาจากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ รวมตัวเป็นทีมทีมละ 4 คน งัดกึ๋นมาโชว์ทักษะ ฟุด ฟิด ฟอ ไฟ อย่างเต็มพิกัด พร้อมกล้าการันตีการแข่งขันด้วยคำว่า “ให้…มากกว่าที่คุณคิด” ทั้งนี้เพื่อช่วยกระตุ้นเยาวชนไทยให้ตื่นตัว เตรียมความพร้อมในด้านภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จะต่อยอดความรู้และก้าวสู่ตลาดงานในกลุ่มประเทศอาเซียนและทั่วโลกได้ต่อไปในอนาคต และโอกาสนั้นไม่ได้อยู่ไกลเกินเอื้อม เพราะนอกจากแต่ละทีมจะได้ “โอกาส” อบรมเรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบใกล้ชิดผ่านการเวิร์คช็อปสนุกๆ กับผู้เชี่ยวชาญจาก บริติช เคานซิล ซึ่งเป็นเจ้าของภาษา และ แดเนียล เฟรเซอร์ เจ้าของฉายาฝรั่งหลงกรุงกันแล้ว ผู้ชนะเลิศยังได้รับการสมนาคุณ สร้างประสบการณ์ชีวิตจากการติดต่อสื่อสารกับมือโปรชั้นนำสายงานการท่องเที่ยวและสื่อสารมวลชน พร้อมรางวัลอีกกว่า 450,000 บาท
การแข่งขันขับเคี่ยวกันมาอย่างดุเดือด ตั้งแต่ระดับภาคจนมาถึงรอบสุดท้าย ซึ่งได้คัดทีมที่เข้าร่วมแข่งขันเหลือ 24 ทีม ซึ่งมีการเก็บคะแนนสะสมจากการเข้า English Camp รวม 3 วัน 2 คืน โดยในรอบนี้ เป็นรอบที่ผู้แข่งขันต้องวัดกึ๋นตี 3 โจทย์หลักให้แตก เพื่อชิงชัยชนะ ซึ่งประกอบด้วย Amazing Race Challenge, Presentation Challenge และ Line TV Show Challenge ซึ่งเป็นรอบน็อกเอาท์ และแล้ว เพชรน้ำหนึ่ง ย่อมมีทีมเดียวเท่านั้น เมื่อคณะกรรมการประกาศผลคะแนนที่ลงมติเอกฉันท์ ปรากฏว่า ทีม Epsilon (เอพซิลอน) เก็บแต้มทิ้งคู่แข่งเข้าวินคว้าชัยชนะไปครอง ประกอบด้วย “พี” นายพชรพล พรหมทัต และ “ฟอยล์” ศุภิสรา เรืองพีระกุล คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย “โจโจ้” นายศิรฎา สุนทรชัยนุกุล คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ “บุ๊คกุ” นายชลพณิช อรรฆยมาศ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร โดยมี ผศ.ดร.สุกานดา เหลืองอ่อน จากจุฬาฯ เป็นที่ปรึกษา ขณะที่ทีม Empirical English จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คว้ารองชนะเลิศอันดับที่ 1 ส่วนทีม White Elephant จากคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซิวรองชนะเลิศอันดับ 2 และ ทีม Fai Rang วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยขอนแก่น รองชนะเลิศอันดับ 3
“พี” นายพชรพล พรหมทัต กล่าวว่า สิ่งที่ได้รับจากโครงการนี้คือความรู้ใหม่ๆ จากวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญ เมื่อรู้ว่าทีมได้รับรางวัลชนะเลิศ ยิ่งรู้สึกดีใจ เพราะพวกเราตั้งใจและพยายามฝึกฝน หาข้อมูลตลอด จึงส่งผลให้ประสบความสำเร็จตามที่คาดหวังไว้ตั้งแต่เริ่มสมัครข้อเขียนจนกระทั่งได้รับรางวัลชนะเลิศ นอกจากนี้ ขอฝากคำแนะนำสำหรับการเตรียมตัวเพื่อเข้าร่วมโครงการนั้น ต้องให้ความสำคัญกับการคัดเลือกเพื่อนผู้ร่วมทีม เพราะการแข่งขันนั้นทักษะการพูดเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ส่วนทักษะด้านอื่นๆ สามารถมาเรียนรู้การวางแผนและช่วยเหลือกันได้ในทีม
“โจโจ้” นายศิรฎา สุนทรชัยนุกุล บอกว่า รู้สึกยินดีที่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ ขอบคุณความรู้มากมายจากวิทยากร ดีใจที่ได้รู้จักเพื่อนๆ จากทั่วทุกภูมิภาค ทำให้มีความสามารถทางการติดต่อกับผู้อื่นเพิ่มขึ้น อีกทั้งรู้สึกดีใจที่ได้รับรางวัลและภาคภูมิใจทั้งในตัวเองและเพื่อนๆ ในทีมทุกคน นอกจากนี้ สิ่งสำคัญสำหรับคนที่อยากฝึกภาษาอังกฤษ คือ ต้องใช้มันบ่อยๆ เชื่อว่าทุกอย่างเมื่อยิ่งฝึกฝนก็ยิ่งดี ภาษาอังกฤษก็เช่นกัน ยิ่งฝึกก็ยิ่งเก่ง
“ฟอยล์” น.ส.ศุภิสรา เรืองพีระกุล กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า รู้สึกโชคดีมากที่ได้รับรางวัลจากโครงการนี้ รู้สึกดีใจกับเพื่อนร่วมทีมที่ได้พยายามกันอย่างสุดความสามารถ เติมเต็มซึ่งกันและกันจนได้รับรางวัลชนะเลิศตามที่ได้คาดหวังกันไว้ สิ่งที่ได้รับจากโครงการ คือ ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น ค้นพบว่าเราถนัดหรือไม่ถนัดอะไร ชอบหรือไม่ชอบอะไร ได้พัฒนาตัวเองขึ้นไปอีกระดับ ก้าวออกจากจุดยืนของตัวเอง ซึ่งขอฝากคำแนะนำสำหรับคนที่อยากพัฒนาในเรื่องของภาษาอังกฤษ คือ ให้ใช้มันทุกวัน ฟังบ่อยๆ ฝึกพูด ไม่ต้องกลัวว่าพูดแล้วจะผิด หรือสำเนียงไม่ดี กลัวคนจะหัวเราะ ต้องกล้าดึงตัวเองออกมาจากจุดโลกของตัวเอง
ปิดท้ายกับ “บุ๊คกุ” นายชลพณิช อรรฆยมาศ เสริมต่อทันทีว่า อยากขอบคุณทุกคนในทีมมีส่วนร่วมที่ทำให้ได้รับรางวัลนี้ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลที่ใช้กันทั่วโลก มันทำให้คนต่างชาติต่างภาษามีความเข้าใจตรงกัน เสมือนใบเบิกทางในชีวิต หรือเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จ ทำให้เราง่ายต่อการติดต่อสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางหรือการทำงาน สิ่งที่ได้รับจากโครงการนี้ มันมากกว่าเงินรางวัล แต่เราได้ความรู้ ประสบการณ์ชีวิต และมิตรภาพ
เมื่อรู้กลเม็ดเคล็ด (ไม่) ลับของคนรุ่นใหม่ ซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จกันแล้ว น้องๆ หลายคนคงจะมีแรงบันดาลใจ ในการฝึกภาษาอังกฤษ เพื่อเป็นใบเบิกทางนำไปสู่ความก้าวหน้าในชีวิต ถึงเวลาสลัดความคิดที่ว่า ภาษาอังกฤษ “ยาก” แล้วเปลี่ยนมาเป็น ภาษาอังกฤษ “ง่ายนิดเดียว” กันได้แล้ว
ที่มา : http://www.banmuang.co.th/news/education/48709