รมช.ศธ.”
ย้ำให้ทุกฝ่ายช่วยเหลือเต็มที่ นักเรียนทุกคนต้องมีที่เรียน
จังหวัดเชียงราย –
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดเหตุเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นเหตุให้เด็กหญิงชั้นอนุบาล – ป.6 เสียชีวิต 17 คน และบาดเจ็บ 5 คน (อาการสาหัส 1 คน) โดย รมช.ศึกษาธิการ ได้เดินทางไปครั้งนี้เพื่อเป็นกำลังใจให้ครอบครัวผู้บาดเจ็บและสูญเสียจากเหตุการณ์ดังกล่าว รวมถึงกำชับถึงการที่ผู้เกี่ยวข้องจะต้องทบทวนมาตรการด้านความปลอดภัยที่มีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น และนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บทุกคนต้องมีที่เรียน รวมทั้งได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง
โอกาสนี้ รมช.ศึกษาธิการ ได้เดินทางไปเยี่ยมนักเรียนที่บาดเจ็บสาหัสและญาติของผู้บาดเจ็บ ณ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ อำเภอเมืองเชียงราย พร้อมมอบกระเช้าเพื่อเป็นกำลังใจแก่ญาติผู้บาดเจ็บ
จากนั้นได้เดินทางไปเยี่ยมนักเรียนที่บาดเจ็บเล็กน้อย ณ โรงพยาบาลเวียงป่าเป้า อำเภอเวียงป่าเป้า และเดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อพบปะและให้กำลังใจแก่ครอบครัวผู้สูญเสีย ณ โรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยาของมูลนิธิพันธกิจสุขสันต์ (องค์กรสาธารณประโยชน์) อำเภอเวียงป่าเป้า โดยมอบเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตรายละ 10,000 บาท และมอบถุงยังชีพให้กับผู้ปกครองของนักเรียนผู้ประสบเหตุ จำนวน 15 ครอบครัว รวมถึงได้เข้าตรวจอาคารที่ประสบเพลิงไหม้ พร้อมทั้งได้พูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องถึงสภาพเหตุการณ์
ในเวลาต่อมา รมช.ศึกษาธิการ ได้ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์และการเยียวยาให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเวียงป่าเป้า โดยมีนายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย, นายประเสริฐ บุญเรือง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัติหน้าที่ศึกษาธิการภาค 15, นายพีรศักดิ์ รัตนะ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน, นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ นายอำเภอเวียงป่าเป้า, คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด, ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1-3 และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 36 ผู้บริหารจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง วิทยาลัยเทคนิคเชียงราย ตลอดจนผู้ปกครอง เข้าร่วมประชุม
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการในขณะนี้คือการเยียวยาผู้เสียหายและผู้สูญเสียเป็นรายบุคคล และที่ผ่านมาก็ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนในพื้นที่ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาสังคม ที่ให้ความร่วมมือและให้การช่วยเหลือทางโรงเรียนและผู้ได้รับความเสียหายเป็นอย่างดี ทั้งการจัดตั้งศูนย์อำนวยการประสานช่วยเหลือผู้สูญเสีย, การบริจาคเงินช่วยเหลือ, การตรวจสอบและดูแลระบบไฟฟ้า-เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในโรงเรียนและหอพัก, การดูแลฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ได้รับผลกระทบและประชาชนที่อาศัยอยู่พื้นที่ ตลอดจนการดูแลและจัดหาที่เรียนให้กับเด็กทุกคน โดยควรประชุมหารือร่วมกับผู้ปกครองเกี่ยวกับโรงเรียนที่ต้องการให้บุตรหลานไปเรียนด้วย ทั้งนี้ ในการประสานงานเกี่ยวกับการดำเนินงานในทุกกรณี ขอให้แจ้งให้นายอำเภอเวียงป่าเป้ารับทราบ เพื่อป้องกันการเกิดข้อมูลที่สับสน พร้อมแจ้งความก้าวหน้าการแก้ปัญหาและเยียวยาต่างๆ ให้ผู้ปกครองรับทราบอย่างต่อเนื่องด้วย
ในส่วนของการรายงานสถานการณ์การเกิดเหตุไฟไหม้ ทราบว่าเกิดเหตุเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม 2559 เวลาประมาณ 23.00 น. ภายในหอพักนักเรียนหญิงโรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยา ตั้งอยู่ที่ ม.11 ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ที่ ซึ่งมีนักเรียนหญิงอายุ 5-12 ปี และครูผู้คุม 1 คน เข้าพักรวม 35 คน เป็นเหตุให้มีนักเรียนหญิงเสียชีวิตจำนวน 17 คน บาดเจ็บ 5 คน ส่วนครูผู้ควบคุมบาดเจ็บเล็กน้อย โดยนักเรียนผู้บาดเจ็บ 5 คน ได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์และโรงพยาบาลเวียงป่าเป้า อย่างไรก็ตามได้มีหน่วยงานต่างๆ ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่ในหลากหลายรูปแบบ ดังนี้
– การตั้งกรรมการสืบสวนสอบสวนสาเหตุของการเกิดเหตุอัคคีภัยไฟไหม้ในครั้งนี้
– การเก็บรายละเอียด DNA ของพ่อแม่เด็กที่เสียชีวิต
– การสอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด
– การสั่งหยุดเรียนเป็นเวลา 7 วัน และการส่งเด็กนักเรียนที่เหลือ 14 คนกลับบ้าน
– การดูแลเยียวยาและจัดกิจกรรมมวลชนสัมพันธ์ ร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และเจ้าหน้าที่ทหาร
– จัดตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือและรับบริจาคของใช้แก่ผู้ได้รับผลกระทบ ณ ที่ว่าการอำเภอเวียงป่าเป้า และสำนักงานเทศบาลตำบลเวียงป่าเป้า
– การให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชน มอบให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรเชียงรายเป็นผู้ให้ข้อมูลเพียงผู้เดียว
– การดูแลสภาพจิตใจเด็กและผู้ปกครอง โดยทีมจิตเวชจากโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
– การเปิดบัญชีเพื่อรับบริจาคเงินช่วยเหลือผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ
– สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย ให้การดูแลสงเคราะห์ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบรายละ 2,000 บาท ดูแลผู้บาดเจ็บสาหัส 2 รายๆ ละ 8,500 บาท และบาดเจ็บเล็กน้อย 3 รายๆ ละ 3,500 บาท
– การดูแลจากการประกันชีวิต ได้แก่ ประกันชีวิตกลุ่ม คุ้มครองจำนวน 100,000 บาท ประกันอุบัติเหตุกลุ่ม คุ้มครองเป็นจำนวน 2 เท่า ในส่วนกรณีบาดเจ็บ คุ้มครองจำนวน 10,000 บาท
– สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ปกครองของนักเรียนผู้เสียชีวิต จำนวน 14 รายๆ ละ 5,000 บาท (มีผู้ปกครองของนักเรียนที่เสียชีวิตอีก 3 รายไม่ได้เดินทางไปที่โรงเรียน) ส่วนนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บและพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล จำนวน 4 ราย มอบเงินช่วยเหลือรายละ 3,000 บาท และนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยและไม่ได้นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล มอบให้รายละ 1,000 บาท
– นายโยธิน มูลกำบิล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และคณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย ได้มอบเงินช่วยเหลือแก่ผู้ปกครองนักเรียนที่เสียชีวิต
มาตรการป้องกันการเกิดเหตุไฟไหม้ คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดเชียงรายและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขตในจังหวัดเชียงราย ได้มีนโยบายเน้นย้ำให้สถานศึกษาแบบประจำพักนอนที่มีหอพัก กวดขันให้มีการตรวจสอบสภาพของสายไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ให้มีความปลอดภัยเมื่อต้องใช้งานอยู่เสมอ, ให้ทุกคนมีความระมัดระวังและไม่ประมาทในการประกอบอาหารหรือใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า, จัดให้มีบันไดหนีไฟกรณีที่เป็นอาคารสูง, จัดระบบติดต่อสื่อสารกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อเข้ามาช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที พร้อมทั้งจัดครูเวรอยู่ประจำหอพักในจำนวนที่เหมาะสม ซึ่งปัจจุบันยังมีอัตราครูไม่เพียงพอกับความต้องการ และซักซ้อมการอพยพหนีไฟหรือภัยพิบัติอื่นๆ นอกจากนี้ควรสอนทักษะชีวิตให้กับเด็กด้วย เพื่อเด็กจะได้เอาตัวรอดและช่วยเหลือตนเองได้ เช่น วิชาลูกเสือเนตรนารี เป็นต้น โดยอาจจะนำมาสอดแทรกในกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
อย่างไรก็ตาม สพฐ.เตรียมการที่จะจัดประชุมโรงเรียนประจำพักนอนในเขตภาคเหนือ ในระหว่างวันที่ 1-3 มิถุนายน 2559 เพื่อจัดทำมาตรการเฝ้าระวังความปลอดภัยจากเหตุไฟไหม้และความปลอดภัยด้านต่างๆ ที่จะไม่ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความสูญเสียขึ้นอีก ซึ่งจะมีการเชิญผู้แทนจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มาเป็นวิทยากรอบรมการป้องกันอัคคีภัยและระบบการดูแลหอพักด้วย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาทบทวนแผนป้องกันภัยของสถานศึกษาและสถานที่ราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ให้มีความพร้อมกับการเผชิญกับเหตุการณ์ต่างๆ อย่างรอบด้าน ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดดำเนินการอย่างรวดเร็วและรอบคอบ เพื่อปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยแก่ครูและนักเรียนได้อย่างมีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น
อรพรรณ ฤทธิ์มั่น, บัลลังก์ โรหิตเสถียร สรุป/รายงาน
ขอบคุณภาพถ่าย : คณะทำงาน รมช.ศธ.
25/5/2559