
เมื่อวันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม 2564 นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย นายกมล รอดคล้าย ที่ปรึกษา รมช.ศึกษาธิการ นายพะโยม ชิณวงศ์ หัวหน้าคณะทำงาน รมช.ศธ. ตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของนักเรียนนักศึกษา ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคลองหอยโข่ง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยมี นางสุรียพรรณ์ ณ สงขลา นายปรเมศวร์ ศิริรัตน์ รองเลขาธิการ กศน. ร่วมคณะ

รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า การฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ณ โรงพยาบาลคลองหอยโข่ง ในวันนี้ มีนักเรียนประสงค์เข้ารับการฉีดวัคซีน รวม 433 คน แบ่งเป็น ช่วงเช้า 224 คน และช่วงบ่าย 209 คน โดยจัดช่วงเวลาให้นักเรียนนักศึกษามาฉีดวัคซีนแบบเหลื่อมเวลา เพื่อลดความแออัด และเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งมีโรงเรียนมารับบริการหลากหลายสังกัด อาทิ สังกัด สพฐ. กศน. โรงเรียนนานาชาติ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น




“ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ ต้องการสร้างความมั่นใจให้กับพ่อแม่ผู้ปกครอง นักเรียน และประชาชน ในการเตรียมพร้อมเปิดภาคเรียน โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งจังหวัดสงขลา ซึ่งมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง การมาให้กำลังใจกันยิ่งเป็นเรื่องที่สำคัญ พร้อมมารับฟังปัญหาในทุกมิติ ทั้งเรื่องการรับวัคซีน และการจัดการเรียนการสอน รวมทั้งปัญหาอุปสรรคอื่น ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจและเป็นขวัญกำลังใจในการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ ครู ที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดในการลงพื้นที่อย่างแท้จริง




โดยเฉพาะในจุดนี้ มีการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับนักเรียนที่สมัครใจ กว่า 433 คน และในภาพรวมของจังหวัดสงขลา ที่มีนักเรียนนักศึกษาประสงค์จะฉีดวัคซีน ถึงร้อยละ 90 รวมถึงมีได้รับแจ้งข้อมูลนักเรียนสมัครใจเข้ารับวัคซีนเพิ่มเติมในหลาย ๆ จังหวัด








ในนามรัฐบาลและพรรคภูมิใจไทย ตลอดจนกระทรวงศึกษาธิการ ขอขอบคุณพ่อแม่ผู้ปกครองนักเรียน ที่ให้ความไว้วางใจและเชื่อมั่นต่อวัคซีนที่รัฐบาลจัดสรรมาให้ ถือเป็นความร่วมมือร่วมใจ ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการรับผิดชอบต่อสังคม และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันก่อนเปิดภาคเรียน ส่วนสถานการณ์การเปิดภาคเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ยังมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง การจะเปิดเรียนได้หรือไม่นั้น ก็ต้องเป็นไปตามแนวทางและมาตรการของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน เพื่อพิจารณาในบริบทของจังหวัดนั้น ๆ ซึ่งเชื่อว่าทุกฝ่ายคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกหลานนักเรียน นักศึกษา เป็นสำคัญ” รมช.ศึกษาธิการ กล่าว