ครม.แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทน รมว.ศธ.

ครม.อนุมัติแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทน รมว.ศึกษาธิการ




ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันพุธที่ 7 ธันวาคม 2559 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ คือ แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติฯ (สทศ.)



อนุมัติการแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ


คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยมอบหมายให้มีผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการตามลำดับ ดังนี้


(1) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายธีระเกียรติ  เจริญเศรษฐศิลป์)
(2) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (พลเอก สุรเชษฐ์  ชัยวงศ์)


ทั้งนี้ ให้ครอบคลุมถึงกรณีไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แล้วแต่กรณีด้วย



อนุมัติการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหาร สทศ.


คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้ง นายกิตติรัตน์  มังคละคีรี ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันทดสอบการศึกษาแห่งขาติ แทนศาสตราจารย์ สุรพล  นิติไกรพจน์ ที่ลาออกจากตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน 2559


ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2559 เป็นต้นไป



อนุมัติการแก้ไขปัญหาเรื่องสัญชาติและสถานะบุคคลของเด็กนักเรียนนักศึกษาและบุคคลไร้สัญชาติที่เกิดในราชอาณาจักรไทย


คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอ ดังนี้


1. อนุมัติให้บุตรของชนกลุ่มน้อยหรือกลุ่มชาติพันธุ์ที่เกิดในราชอาณาจักรไทยและมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ ได้สัญชาติไทยเป็นการทั่วไป คือ


   1.1 บิดาหรือมารดาที่เป็นชนกลุ่มน้อยหรือกลุ่มชาติพันธุ์จะต้องได้รับการจัดทำทะเบียนประวัติ มีเลขประจำตัว 13 หลักตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร และต้องเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 15 ปีนับถึงวันที่บุตรยื่นคำร้องขอมีสัญชาติไทย
   1.2 ต้องมีหลักฐานการเกิดในราชอาณาจักรไทยและทะเบียนบ้าน หรือทะเบียนประวัติ
   1.3 ต้องไม่ปรากฏหลักฐานการมีและใช้สัญชาติอื่น
   1.4 ต้องพูดและเข้าใจภาษาไทย
   1.5 มีความจงรักภักดีและเลื่อมใสระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
   1.6 มีความประพฤติดี ไม่มีพฤติการณ์ที่เป็นภัยต่อความมั่นคง ไม่เคยต้องรับโทษความผิดคดีอาญา เว้นแต่ความผิดโดยประมาทหรือลหุโทษ หรือถ้าเคยรับโทษคดีอาญาต้องพ้นโทษมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปีนับถึงวันที่ยื่นคำร้องขอมีสัญชาติไทย


2. อนุมัติให้เด็กและบุคคลที่กำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่ในสถาบันการศึกษา หรือสำเร็จการศึกษาแล้วที่เกิดในราชอาณาจักรไทยโดยมีบิดาหรือมารดาเป็นคนต่างด้าวอื่น ที่ไม่ใช่ชนกลุ่มน้อยหรือกลุ่มชาติพันธุ์ตามที่ มท. จัดทำทะเบียนประวัติ หรือไม่ปรากฏบิดามารดา และมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ ได้สัญชาติไทยเป็นการทั่วไป คือ


   2.1 ต้องมีคุณสมบัติตามข้อ 1.2 -1.6
   2.2 จบการศึกษาระดับอุดมศึกษาหรือเทียบเท่าจากสถาบันการศึกษาในประเทศไทย สำหรับผู้ที่เรียนจบจากสถาบันในต่างประเทศจะต้องเป็นผู้ที่ได้รับทุนการศึกษาจากหน่วยงานของรัฐ

   2.3 สำหรับคนไร้รากเหง้า ไม่ปรากฏบิดามารดาหรือมารดาบิดาทอดทิ้งตั้งแต่วัยเยาว์ และยังไม่จบการศึกษาระดับอุดมศึกษา ต้องมีหนังสือรับรองความเป็นคนไร้รากเหง้าจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวง
การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และต้องมีภูมิลำเนาอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยติดต่อกันไม่น้อยกว่า 10 ปีนับถึงวันที่ยื่นคำร้องขอมีสัญชาติไทย
   2.4 สำหรับบุคคลที่อยู่ระหว่างการศึกษาในสถาบันการศึกษา และมีความจำเป็นต้องขอมีสัญชาติไทย ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วย



บัลลังก์ โรหิตเสถียร
สรุป/รายงาน
7/12/2559