ศึกษาธิการ –
ครม.มีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๓ (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) เป็นประธานกรรมการ ในคราวประชุม ครั้งที่ ๔/๒๕๕๖ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๑๕๕๖ ที่มีมติเห็นชอบในหลักการร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานของสำนักงานเลขานุการเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน พ.ศ. …. โดยมอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติฯ โดยตัดมาตรา ๕ และมาตรา ๖ (๑) (๒) และ (๓) ซึ่งเกี่ยวข้องกับเอกสิทธิ์ทางด้านภาษีอากรตามกฎหมายศุลกากร ซึ่งไม่ได้ระบุสิทธิดังกล่าวไว้ในร่างกฎบัตรเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน อันจะทำให้รัฐบาลไทยต้องรับภาระภาษีอากรเกินความจำเป็นออก แล้วเสนอคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
สำหรับความเป็นมาของ
ต่อมาในการประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาของอาเซียน ครั้งที่ ๓ เมื่อปี ๒๕๕๑ ที่มาเลเซีย ได้มีการทบทวนกฎบัตรดังกล่าว โดยเห็นชอบให้สำนักงานเลขานุการ AUN ตั้งขึ้นที่ประเทศไทย และประเทศไทยในฐานะเป็นเจ้าภาพต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของสำนักงานเลขานุการ AUN แต่เนื่องจากกฎบัตรดังกล่าวเข้าข่ายเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๑๙๐ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา
ครม.ในการประชุมเมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ได้อนุมัติการลงนามในกฎบัตร AUN และให้ส่งร่างกฎบัตรดังกล่าวให้รัฐสภาพิจารณา ซึ่งในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเมื่อวันที่ ๘ กันยายน ๒๕๕๓ ก็ได้มีมติเห็นชอบร่างกฎบัตรดังกล่าวแล้ว ดังนั้นสำนักงานเลขานุการ AUN จึงได้ส่งร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองการดำเนินงานของสำนักงานเลขานุการเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน พ.ศ. …. ให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาดำเนินการเสนอ ครม. พิจารณา
บัลลังก์ โรหิตเสถียร
สรุป/รายงาน
6/03/2556