ศึกษาธิการ –
– เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการศึกษา
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลาของมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการศึกษาและอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. โดยมีสาระสำคัญดังนี้
เนื่องจากการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการบริจาคให้แก่สถาบันการศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 558) พ.ศ.2556 เพื่อกำหนดมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการศึกษา ได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2558
ดังนั้น เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของการสนับสนุนการศึกษา และเพื่อเป็นการปฏิรูประบบการศึกษา ตามนโยบายประชารัฐ โดยให้ภาคเอกชนมีบทบาทในการส่งเสริมและพัฒนาการศึกษามากขึ้น และก่อให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืน รวมทั้งสนองตอบต่อการดำเนินงานของคณะทำงานร่วมรัฐ-เอกชน-ประชาชน (ประชารัฐ) ภายใต้กรอบคณะกรรมการภาครัฐและเอกชนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งในด้านการยกระดับคุณภาพชีวิต (Competitive Workforce) และด้านการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำ (Human Capital Development)
จึงเห็นควรขยายระยะเวลาการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีตามร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวออกไปอีก เพื่อสนับสนุนการศึกษา โดยกำหนดให้ผู้บริจาคให้แก่สถานศึกษาของราชการและเอกชน สามารถนำมาหักเป็นค่าลดหย่อนหรือค่าใช้จ่ายได้ สำหรับการบริจาคที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561
– เห็นชอบให้ยกเลิกระเบียบสำนักนายกฯ ว่าด้วยการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง พ.ศ. 2552 พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยมีสาระสำคัญดังนี้
เนื่องด้วยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง พ.ศ. 2552 กำหนดให้มีคณะกรรมการ 2 คณะ ได้แก่ 1) คณะกรรมการนโยบายปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (กนป.) มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนปฏิบัติการและดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่ 2) คณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (กขป.) มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธาน มีอำนาจหน้าที่อำนวยการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สองตามนโยบายและยุทธศาสตร์
ต่อมาคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2558 แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน รวม 6 คณะ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่เสนอแนะนโยบาย มาตรการ และแนวทางการดำเนินการ ตลอดจนแนวทางการแก้ไขปัญหา พร้อมกำกับ ดูแล และติดตามการดำเนินการของส่วนราชการต่าง ๆ เพื่อให้การขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยคณะที่ 1 คณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และระบบการศึกษา มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ประกอบกับมีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 376/2558 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูประบบการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 1 คณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และระบบการศึกษา
ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว สมควรยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง พ.ศ. 2552
– เห็นชอบให้เพิ่มเงื่อนไขการจัดสรรอัตราว่างเกษียณอายุของข้าราชการครูฯ สถาบันการพลศึกษา
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการเพิ่มเงื่อนไขการพิจารณาจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุของส่วนราชการ โดยให้คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) พิจารณาจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุกรณีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาสำหรับตำแหน่งในสังกัดสถาบันการพลศึกษา คือ “ญ.ตำแหน่งในสังกัดสถาบันการพลศึกษา” ตามที่คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) เสนอ
บัลลังก์ โรหิตเสถียร
สรุป/รายงาน
19/4/2559