ข้อแนะนำในการเขียนแผนการสอน
การกำหนดจำนวนคาบที่ใช้สอนในแต่ละแผน ควรพิจารณาจากความเป็นจริงว่า การสอนแต่ละครั้งใช้เวลากี่คาบนั่นคือ 1 แผน ดังนั้นในแต่ละแผนอาจมีจำนวนคาบไม่เท่ากันก็ได้ เช่น ถ้าสอนสัปดาห์ละ 3 คาบกับ 1 คาบ จะเขียน 2 แผน สาระสำคัญประกอบด้วย
ความรู้พื้นฐานที่จำเป็น ที่ผู้สอนต้องนำมาอ้างอิง เพื่อสอนเนื้อหาใหม่ หากขาดความรู้นี้แล้วจะทำให้ไม่สามารถเรียนรู้เนื้อหาใหม่ได้
สาระที่ได้จากการเรียน ในครั้งนั้นๆ อาจเป็นนิยาม กฎ ทฤษฎี สมบัติ สูตร ประโยชน์ ฯลฯ
สิ่งที่ควรเน้น เป็นสิ่งที่ผู้สอนพบว่ามักเป็นข้อผิดพลาดของผู้เรียน เช่น ฐาน กับ ความสูง ของรูปสามเหลี่ยมจะตั้งฉากกันเสมอ
ลักษณะการเขียน ไม่จำเป็นต้องเขียนแบบเรียงความ อาจเขียนเป็นเรื่องๆ ต่อกันโดยเรียงลำดับก่อน – หลัง ตามการเรียนรู้จุดประสงค์การเรียนรู้
การเขียนจุดประสงค์ ควรเขียนให้ถูกต้องตามลักษณะของจุดประสงค์แบบที่ต้องการ เช่น ถ้าใช้จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม จะต้องเขียนให้ครบองค์ประกอบ 3 ส่วน คือ
ถ้าใช้จุดประสงค์ปลายทางและจุดประสงค์นำทาง
- สถานการณ์หรือเงื่อนไข (Condition)
- พฤติกรรมชี้บ่งที่คาดหวัง (Expecfed Behavior)
- เกณฑ์การประเมิน (Criteria)
ข้อสังเกต
- จุดประสงค์ปลายทาง เป็นจุดประสงค์หลักเป็นเป้าหมายสุดท้ายที่ต้องการให้ผู้เรียนเกิดพฤติกรรมนั้น
- จุดประสงค์นำทาง เป็นจุดประสงค์อย่างละเอียด ซึ่งต้องเน้นไปตามลำดับขั้นของการเรียนรู้ และการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ซึ่งถ้าผู้เรียนบรรลุจุดประสงค์นำทาง แล้วก็จะบรรลุจุดประสงค์ปลายทางที่ต้องการ
ตัวอย่าง จุดประสงค์ปลายทาง เมื่อกำหนดโจทย์เกี่ยวกับการหาพื้นที่ผิวของทรงกระบอกให้ นักเรียนสามารถหาพื้นที่ผิวของทรงกระบอกได้ จุดประสงค์นำทาง เมื่อเรียนจบคาบนี้แล้ว นักเรียนสามารถ
- คำที่ใช้สำหรับการเขียนจะต้องเป็นคำที่แสดงพฤติกรรมชี้บ่งที่สามารถสังเกตได้ วัดได้ และจะต้องเป็นไปตามลำดับขั้นการเรียนรู้เสมอ
- เกณฑ์การประเมิน อาจใช้เช่นเดียวกับเกณฑ์ในจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมก็ได้ หรืออาจไม่ใส่ โดยใช้คำว่า “ได้” เท่านั้น แต่เกณฑ์การประเมินจะไปปรากฏที่การวัดผลและการประเมินผลแทน
- จุดประสงค์นำทาง ต้องเรียงตามลำดับขั้นของการเรียนรู้ และจุดประสงค์นำทางข้อสุดท้าย จะเป็นจุดประสงค์ปลายทางด้วย
หมายเหตุ ข้อ 5) กับจุดประสงค์ปลายทาง คือสิ่งเดียวกัน แต่จำเป็นต้องเขียนไว้ที่ข้อ 5) ด้วย เนื่องจากข้อ 1) – 4) เพียงเท่านี้ ยังไม่สามารถทำให้ได้จุดประสงค์ปลายทางได้ ดังนั้นโดยปกติจึงต้องเขียนจุดประสงค์ปลายทาง กับจุดประสงค์นำทางข้อสุดท้ายซ้ำกันอีกครั้ง ถ้าใช้จุดประสงค์การเรียนรู้ จะเป็นการเขียนเช่นเดียวกับจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม แต่จะต้องเป็นไปตามลำดับขั้นตอนของการเรียนรู้และข้อสุดท้ายก็จะเทียบได้กับจุดประสงค์ปลายทางนั่นเอง ส่วนเกณฑ์นั้นอาจละไว้ โดยนำไปไว้ที่การวัดผลและการประเมินผล หมายเหตุ การเขียนจุดประสงค์เป็นหัวใจของแผนการสอน ถ้าเขียนจุดประสงค์ไม่ละเอียดชัดเจน พฤติกรรมชี้บ่งเป็นสิ่งที่วัดได้จริง และเป็นไปตามลำดับขั้นของการเรียนรู้ สิ่งนี้จะเป็นตัวกำหนดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยปริยายเนื้อหาเป็นการสรุปเนื้อหาที่เรียนโดยย่อ ในคาบเรียนนั้นๆ (ไม่ใช่เฉพาะหัวเรื่อง) มีใจความสำคัญ หรือข้อความสำคัญพร้อมตัวอย่างที่แตกต่างไปจากแบบเรียน (ถ้ามี) กรณีที่อ้างอิงตัวอย่างในแบบเรียน อาจเขียนเพียงโจทย์แล้วอ้างอิงหน้าในแบบเรียนก็ได้กิจกรรมการเรียนการสอนประกอบด้วย ขั้นนำ ขั้นสอน – ขั้นสรุป – ขั้นฝึกทักษะ – ขั้นประเมินผล อาจไม่จำเป็นต้องแยกเป็นขั้นๆ อย่างชัดเจน แต่ให้เขียนเรียงกันไป ตามลำดับ คือ นำ – สอน – สรุป – ฝึกทักษะ – ประเมินผล และในการเขียนควรเขียนเป็นข้อๆ โดยแต่ละข้อ ควรมีสาระที่ตอบได้ว่าครูทำอะไร โดยวิธีใด เด็กทำอะไร เมื่อทำแล้วเด็กได้อะไร เช่น ครูแจกเอกสารแนะแนวทางเรื่อง การบวกและการลบพหุนามให้นักเรียนแต่ละคนศึกษาและทำภายในเวลา 10 นาที แล้วช่วยกันสรุปหลักการบวกและการลบพหุนาม ซึ่งได้ว่า
- บอกสูตรการหาความยาวของเส้นรอบวงได้
- บอกสูตรการหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าได้
- บอกสูตรการหาพื้นที่ของรูปวงกลมได้
- หาพื้นที่ผิวข้างของทรงกระบอกได้
- หาพื้นที่ผิวของทรงกระบอกได้
กรณีที่สอนหลาย Concept ในคาบนั้นๆ เช่น การบวกและการลบพหุนาม การวางแผนกิจกรรมการสอนนั้นต้องสอนที่ละ Concept กล่าวคือ สอนการบวกพหุนามก่อน โดยเริ่มที่ นำ – สอน – สรุป – ฝึกทักษะ (การบวก) แล้วจึงสอนการลบด้วยกระบวนการเดียวกัน คือ นำ – สอน – สรุป – ฝึกทักษะ (การลบ) จากนั้นจึงสรุปรวมอีกครั้งและฝึกทักษะรวมอีกครั้งเช่นกัน แล้วต่อด้วยการประเมินผลรวมทั้งสอง Concept ข้อสังเกต การเขียนกิจกรรมการเรียนการสอน จะต้องตอบสนองจุดประสงค์การเรียนรู้ทุกข้อตามลำดับ และกิจกรรมที่ทำก็จะต้องทำให้ผู้เรียนเกิดพฤติกรรมตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้ทุกข้อตามลำดับเช่นกัน การวัดผลและการประเมินผลการวัดผล เป็นการระบุถึงวิธีการในการตรวจสอบผู้เรียนแต่การประเมินผลเป็นการนำผลที่ได้จากการวัดมาตีค่า หรือประเมินตามเกณฑ์ที่กำหนด เช่น
การวัดผล
การประเมินผล
1. สังเกตจากการตอบคำถาม
1. นักเรียนตอบคำถามได้ถูกต้อง
2. ทำโจทย์พิเศษ 5 ข้อ
2. นักเรียนทำโจทย์พิเศษถูกต้อง 4 ใน 5 ข้อ เป็นอย่างน้อย
หมายเหตุ ควรเว้นที่ไว้สำหรับการเขียนบันทึกผลการสอน ปัญหาในการสอนตลอดจนแนวทางการปรับปรุงแก้ไข เพื่อการสอนในครั้งต่อไป
ที่มาเว็บ : http://www.myfirstbrain.com