“สิกฺขา วิรุฬหิ สมฺปตฺตา” พุทธภาษิตบทนี้แปลความได้ว่า การศึกษาเล่าเรียนเป็นความ เจริญงอกงาม หรือ การศึกษาเล่าเรียนช่วยเสริมสร้างความเจริญในทุกด้านของมนุษย์
การเรียนให้ดีที่สุดหรือให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดนั้นเป็นเรื่องที่มีการอภิปรายกันอย่าง กว้างขวาง บางคนเห็นว่าการที่จะเรียนได้ดีนั้น ผู้เรียนต้องมีสติปัญญาดี แต่บางคนก็แย้งว่า การเรียนได้ดีหรือเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น ต้องมีวิธีการและกลวิธีในการเรียนเป็นสำคัญ สติปัญญานั้นสำคัญก็จริงแต่เป็นเรื่องรองลงมา ต่อให้มีสติปัญญาดีเลิศอย่างไร แต่ถ้าขาดวิธีการเรียนที่ถูกต้อง ประสิทธิภาพก็ย่อมเกิดไม่ได้
ในอดีตจนถึงปัจจุบัน มีผู้รู้มากมายพยายามเสนอแนะด้วยความหวังดีเพื่อให้นักเรียนเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น
การใช้หลัก สุ. จิ. ปุ. ลิ. คือ
สุ. | มาจากคำว่า | สุต | แปลว่า | ฟัง (รวมทั้งอ่านด้วย) |
จิ. | มาจากคำว่า | จินตนะ | แปลว่า | คิด |
ปุ. | มาจากคำว่า | ปุจฉา | แปลว่า | ถ่ม |
ลิ. | มาจากคำว่า | ลิขิต | แปลว่า | เขีียน |
หลักการนี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักเรียนนักศึกษา ในการเรียนให้เกิดประสิทธิภาพนั้น ต้องอาศัยการฟัง (อ่าน) ฟังแล้วนำมาคิด ถ้าหากไม่เข้าใจก็ต้องถามหรือค้นคว้าหาคำตอบที่ถูกต้อง และท้ายสุดต้องบันทึกไว้เพื่อให้จดจำได้
การใช้หลักอิทธิบาท 4 ได้แก่
1. ฉันทะ คือความพอใจ ใฝ่ใจที่จะเรียน
2. วิริยะ คือความเพียรในการเรียน อดทนไม่ท้อถอยในการเรียน
3. จิตตะ คือความคิด ตั้งใจรับรู้ในสิ่งที่เรียน
4. วิมังสา คือความไตร่ตรอง ทดลองตรวจตราใคร่ครวญหาเหตุผล
สรุปได้ว่าการเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ จะต้องมีความพอใจ มีความเพียร หมั่นคิดและค้นคว้าในสิ่งที่เรียน
หลักการข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างที่ผู้รู้เสนอแนะเพื่อให้นักเรียนเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน นักวิชาการทั้งไทยและต่างประเทศจำนวนมากให้ความสนใจในเรื่องวิธีการเรียนให้มีประสิทธิภาพ จึงได้รวบรวมวิธีการและกลวิธีในการเรียนและเขียนเผยแพร่กันอย่างกว้างขวาง ซึ่งหากประมวลแล้ว อาจสรุปได้ว่า การเรียนอย่างมีประสิทธิภาพนั้น นักเรียนควรปฏิบัติตนดังนี้
หลักการข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างที่ผู้รู้เสนอแนะเพื่อให้นักเรียนเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน นักวิชาการทั้งไทยและต่างประเทศจำนวนมากให้ความสนใจในเรื่องวิธีการเรียนให้มีประสิทธิภาพ จึงได้รวบรวมวิธีการและกลวิธีในการเรียนและเขียนเผยแพร่กันอย่างกว้างขวาง ซึ่งหากประมวลแล้ว อาจสรุปได้ว่า การเรียนอย่างมีประสิทธิภาพนั้น นักเรียนควรปฏิบัติตนดังนี้
1. มีความเจตคติดีต่อครู ต่อการเรียน และต่อวิชาที่เรียน (รู้สึกดีมีชัยไปกว่าครึ่ง)
2. มีเทคนิคหรือกลวิธีในการเรียน ซึ่งได้แก่
- รู้จักวิธีการจัดตารางในการใช้เวลา (จัดเวลาดีมีชัยไปกว่าครึ่ง)
- หาบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการเรียน
- พัฒนาทักษะในการอ่าน (อ่านเร็วดีมีชัยไปกว่าครึ่ง)
- พัฒนาทักษะในการฟังและบันทึก (ฟังดีบันทึกดีมีชัยไปกว่าครึ่ง)
- พัฒนาทักษะในการสื่อสาร เช่น การเขียน การพูด เป็นต้น
- พัฒนาทักษะในการจำ
- มีการเตรียมตัวสอบที่ดี (เตรียมตัวสอบดีมีชัยไปกว่าครึ่ง)
ที่มาข้อมูล : http://www.hot-ed.co.th
ที่มาเว็บ : http://www.myfirstbrain.com