วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม 2562 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุรุสภา กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติรับทราบและพิจารณาเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
1. รับทราบการนำครูอาวุโส ประจำปี 2560 เข้าเฝ้าฯ เพื่อรับพระราชทานเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ ประกาศนียบัตร และเงินช่วยเหลือ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจแทนพระองค์ ในวันศุกร์ที่ 20 กันยายน 2562 เวลา 13.00 น. และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจแทนพระองค์ ในวันเสาร์ที่ 21 กันยายน 2562 เวลา 15.00 น. ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา ในการประทานเครื่องหมายเชิดชูเกียรติประกาศนียบัตรและเงินช่วยเหลือครูอาวุโส ประจำปี 2560 ที่ผ่านการพิจารณาจากมูลนิธิช่วยครูอาวุโส ในพระบรมราชูปถัมภ์ จำนวน 13,824 คน ในจำนวนนี้มีครูอาวุโสที่ได้รับการพิจารณาให้ได้รับเงินช่วยเหลือจากมูลนิธิช่วยครูอาวุโสฯ จำนวน 30 คน คนละ 20,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 600,000 บาท (หกแสนบาทถ้วน)
2. ให้การรับรองปริญญาทางการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาตามาตรฐานวิชาชีพ จำนวน 45 หลักสูตร ดังนี้ 1) หลักสูตรปริญญาตรีทางการศึกษา (หลักสูตร 5 ปี) จำนวน 36 หลักสูตร 2) ประกาศนียบัตรทางการศึกษา จำนวน 7 หลักสูตร และ 3) ปริญญาโททางวิชาชีพครู จำนวน 2 หลักสูตร
3. เห็นชอบร่างแนวทางการทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู และการกำหนดมวลสาระการทดสอบและประเมินสมรรถนะตามมาตรฐานวิชาชีพครู ที่ผ่านการพิจารณาและได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ โดยให้ประสานความร่วมมือกับสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ดำเนินการจัดการทดสอบ ภายใต้การกำกับของคุรุสภา ให้เรียกเก็บค่าดำเนินการทดสอบจากผู้สมัครเข้ารับการทดสอบ ทั้งนี้ การกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมทดสอบให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการคุรุสภากำหนด รวมทั้งให้แต่งตั้งคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการทดสอบ และมอบสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาดำเนินการจัดทำข้อบังคับ หรือประกาศที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู เสนอคณะกรรมการคุรุสภาพิจารณาต่อไป
4. เห็นชอบร่างข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. … โดยแก้ไขข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ พ.ศ. 2559 ดังนี้ 1) การต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ทุก 5 ปี จากเดิมหากไม่ต่อภายใน 5 ปี หลังจากวันหมดอายุจะไม่สามารถต่ออายุได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบวิชาชีพ ทำให้ไม่สามารถประกอบวิชาชีพได้ ปรับเป็นให้เลขาธิการคุรุสภาเสนอคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพพิจารณาอนุมัติสำหรับกรณีดังกล่าวได้ 2) ปรับค่าดำเนินการกรณีต่อใบอนุญาตล่าช้าจากเดิม เดือนละ 200 บาทเป็นเดือนละ 200 บาท แต่ไม่เกิน 2,000 บาท 3) ยกเลิกการกำหนดใบอนุญาตตลอดชีพ เพื่อให้มีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นหลักประกันการประกอบวิชาชีพอย่างมีคุณภาพ เป็นประโยชน์ต่อผู้รับการศึกษา และเป็นไปตามหลักการของวิชาชีพควบคุม และ 4) กำหนดให้มีการทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพให้สอดคล้องและทันการสอบรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ซึ่งจะเริ่มใช้กับผู้ที่จะเข้าเรียนตั้งแต่ปีการศึกษา 2562
ที่มา : คุรุสภา