“ทุกสิ่งทุกอย่างของลูก” รับรางวัลหนังสั้นสร้างสรรค์
เยาวชนคนเก่งคว้าถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโครงการ “ประกวดสื่อดิจิตอลสร้างสรรค์” ประเภท หนังสั้น ปี พ.ศ.2559
สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (TK park) ร่วมกับ มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย ประกาศผลและมอบรางวัลการประกวดสื่อดิจิตอลสร้างสรรค์ ประเภท หนังสั้นประจำปี พ.ศ.2559 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
สำหรับการประกวดหนังสั้น ใน 5 หัวข้อเรื่อง ได้แก่ การส่งเสริมการเรียนรู้เท่าทันสื่อ ส่งเสริมความเป็นพลเมืองดี ต่อต้านการใช้ความรุนแรง ต่อต้านการละเมิดทางเพศ และสื่อสร้างสรรค์สังคม มีผลงานผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ 15 ผลงานโดยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ โดยรางวัลชนะเลิศ ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เกียรติบัตร และเงินรางวัล 50,000 บาท ได้แก่โรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ผลงานเรื่อง ทุกสิ่งทุกอย่างของลูก รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ถ้วยรางวัล เกียรติบัตร และเงินรางวัล 30,000 บาท โรงเรียนเจริญศิลป์ศึกษา “โพธิ์คำอนุสรณ์” ผลงานเรื่อง ทองดี รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ถ้วยรางวัล เกียรติบัตร และเงินรางวัล 15,000 บาท ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านกรุณา ผลงานเรื่อง บทเรียนที่ล้ำค่า รางวัลชมเชย เกียรติบัตร และเงินรางวัล 5,000 บาท โรงเรียนมารีวิทยาปราจีนบุรีผลงานเรื่อง สองล้อสีส้ม ทีมราหูฟิล์ม ผลงานเรื่อง เรื่องจริงผ่านวอลล์ ทีม The Productionman Studioผลงานเรื่อง ตานารี
ด.ช.ธนภัทร ศรีมาตร และ ด.ช.ภูมิรพี เรืองศรี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากโรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ เจ้าของผลงานเรื่อง “ทุกสิ่งทุกอย่างของลูก” ที่คว้า “รางวัลชนะเลิศ” กล่าวว่านี่เป็นรางวัลแรกในชีวิตที่ได้รับ รู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากที่ผลงานของโรงเรียนตนได้รับรางวัลที่ 1 และหนังสั้นที่ทำนี้จะได้นำไปเผยแพร่เพื่อเป็นประโยชน์แก่คนทั่วไป
นายสุริยะ อุส่าห์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จากโรงเรียนเจริญศิลป์ศึกษาโพธิ์คำอนุสรณ์ ที่นำ ผลงานเรื่อง “ทองดี” คว้ารางวัล “รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง” เปิดเผยว่า “แนวคิดของผมยึดหลักตามพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแก่นของเรื่อง นั่นคือในเรื่องของการทำความดี ตามที่ว่า “การทำความดีนั้น สำคัญที่สุดอยู่ที่ตัวเอง ผู้อื่นไม่สำคัญ และไม่มีความจำเป็นอันใดที่จะต้องเป็นห่วงหรือต้องรอคอยเขาด้วย เมื่อใดลงมือลงแรงกระทำแล้ว ถึงแม้จะมีใครร่วมมือด้วยหรือไม่ก็ตาม ผลดีจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน…” ซึ่งหนังสั้นนี้ผมอยากสะท้อนให้เห็นว่า เมื่อเราตั้งใจจะความดีแล้ว จงทำให้ถึงที่สุด ถ้ามันไม่เดือดร้อนเรา ก็ไม่จำเป็นต้องรอคนอื่น”
ขณะที่นายต้น (นามสมมุติ) จากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านกรุณาซึ่งคว้า “รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2” จากผลงานเรื่อง “บทเรียนที่ล้ำค่า” กล่าวว่าแนวคิดของหนังสั้นเรื่องนี้เกิดจากการที่ต้องการจะเปิดเผยประสบการณ์ความผิดพลาดและบทเรียนราคาแพงจากการยุ่งเกี่ยวกับสิ่งไม่ดีของเพื่อนๆ ในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านกรุณาที่ได้กระทำความผิด รวมถึงสะท้อนมุมมองของเด็กที่ทำผิดให้สังคมได้รับรู้ว่าบางครั้งการกระทำความผิดก็เกิดจากความจำเป็น แต่อย่างไรก็ตามการไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งไม่ดีถือว่าดีที่สุด
ที่มา : http://www.banmuang.co.th/news/education/61864