สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน วางแผนขับเคลื่อนโรงเรียนประชารัฐ
ระยะที่ 2 ปีงบประมาณ 2560
จัดประชุมผู้รับผิดชอบในการพัฒนาระบบบริหารจัดการโครงการและพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ
โดยบูรณาการโรงเรียนดีใกล้บ้าน-โรงเรียนแม่เหล็ก-โรงเรียนขนาดเล็ก
เข้าร่วมโครงการในปีนี้พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น "โรงเรียนประชารัฐ" จำนวน
4,081 โรงเรียน อันจะส่งผลโรงเรียนประชารัฐเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันเป็น
7,423 โรงเรียน

เมื่อวันศุกร์ที่ 21
กรกฎาคม 2560
ณ โรงแรมบางกอกพาเลส - สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
โดยสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา
ได้จัดการประชุมพร้อมกัน 2 คณะ คือ
การประชุมสัมมนาการบริหารจัดการโครงการโรงเรียนประชารัฐ และการประชุมปฏิบัติการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศของ
สพฐ.
เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการโรงเรียนประชารัฐ ระยะที่ 2
การประชุมสัมมนาการบริหารจัดการโครงการโรงเรียนประชารัฐ
ระหว่างวันที่ 21-22
กรกฎาคม 2560 ณ ห้องประชุมชั้น 3
โรงแรมบางกอกพาเลส
โดย ม.ล.ปริยดา ดิศกุล
เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิด

ม.ล.ปริยดา ดิศกุล กล่าวว่า
การประชุมสัมมนาดังกล่าวเพื่อวางแผนขับเคลื่อนการบริหารจัดการและการกำกับติดตามโครงการ
ซึ่งได้เชิญผู้รับผิดชอบด้าน ICT
และศึกษานิเทศก์สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาละ 2 คน เข้าร่วมประชุมสัมมนา
รวมทั้งสิ้น 450 คน ระหว่างวันที่ 21-22 กรกฎาคม 2560
โดยมีหลักสูตรในการประชุมสัมมนา คือ
การขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการโรงเรียนประชารัฐ (โรงเรียนดีใกล้บ้าน)
การบริหารจัดการบัญชีกองทุนโรงเรียนประชารัฐ
บทบาทของภาคเอกชนกับการขับเคลื่อนคุณภาพโรงเรียนประชารัฐ การบูรณาการสื่อ/นวัตกรรมออนไลน์สู่ห้องเรียนโรงเรียนประชารัฐ
และก้าวต่อไปของการดำเนินงานโครงการโรงเรียนประชารัฐ
และโครงการโรงเรียนประชารัฐ (โรงเรียนดีใกล้บ้าน)
ทั้งนี้
ที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องระบบข้อมูลของกระทรวงศึกษาธิการเป็นอย่างมาก
ทั้งข้อมูลไม่ตรงกัน ไม่เป็นปัจจุบัน การรับรายงานที่ล่าช้า
จึงต้องการให้มีการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศของ สพฐ.
เพราะ "ข้อมูล"
ถือว่าเป็นแม่บทที่สำคัญก่อนที่จะวางแผนการทำงานในทุกด้านหรือการจัดสรรงบประมาณลงไป
หากข้อมูลคลาดเคลื่อนย่อมส่งผลถึงประสิทธิภาพในการวางแผนและการขับเคลื่อนโครงการ
จึงฝากให้ศึกษานิเทศก์มีส่วนร่วมที่สำคัญในการดำเนินงานโครงการ เช่น
ดูพิกัดพื้นที่และความเหมาะสมในการจัดตั้งโรงเรียนประชารัฐที่จะเป็นโรงเรียนแม่เหล็ก
เพื่อให้บริการกับโรงเรียนอื่น ๆ
ซึ่งโรงเรียนแม่เหล็กจะได้รับการจัดสรรทรัพยากรและงบประมาณลงไป
รวมทั้งให้ Shopping List
ที่โรงเรียนสามารถเลือกเพื่อนำไปพัฒนาได้เอง
โดยไม่ได้เป็นการสั่งการจากส่วนกลางลงไป ส่วนผู้บริหารโรงเรียนในโรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียนต่ำกว่า
100 คน ก็ไม่ต้องกลัวที่จะควบรวมหรือไม่มีอัตรา
เพราะสามารถเกลี่ยอัตราไปในโรงเรียนอื่น ๆ ได้อีกจำนวนมาก
เนื่องจากแต่ละปีมีอัตราเกษียณอายุราชการผู้บริหารโรงเรียนกว่า 2,000
อัตรา ทั้งนี้ จากผลการควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก เช่น
โรงเรียนที่มีนักเรียนเพียง 2 คน เมื่อควบรวมกับโรงเรียนอื่นแล้ว
ทำให้เด็กมีเพื่อน มีอุปกรณ์การเรียนการสอน สื่อการเรียนการสอนที่ดี ๆ
ซึ่งทำให้เด็กมีความสุขมากกว่าที่จะเรียนกันเองตามลำพังไม่กี่คน
ผู้ปกครองและชุมชนก็มีความสุขที่ลูกหลานได้มีโอกาสได้เรียนในโรงเรียนที่ดีมีความพร้อม
แม้ก่อนหน้านั้นจะวิตกก็ตาม
จึงฝากให้ที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้และประสบการณ์ในการบริหารจัดการโรงเรียน
การพัฒนาสื่อและนวัตกรรมที่เหมาะสมสำหรับห้องเรียนประชารัฐ
ให้มีการพัฒนาระบบข้อมูลที่ครบถ้วน โปร่งใส ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
เพราะที่ผ่านมาเรามีเงินเยอะ แต่ใช้ผิดที่
จึงต้องบริหารจัดการงบประมาณให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด
การประชุมปฏิบัติการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศของ
สพฐ. และการพิจารณาร่างมาตรฐานโรงเรียนประชารัฐ
(ดีใกล้บ้าน) Best Practices
โครงการโรงเรียนในฝัน ระดับประเทศ ประจำปี 2560
ระหว่างวันที่ 21-23
กรกฎาคม 2560 ณ ห้องประชุมชั้น 1
โรงแรมบางกอกพาเลส
โดย รศ.นพ.โศภณ นภาธร
ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ
เป็นประธานเปิด

รศ.นพ.โศภณ นภาธร
กล่าวว่า สพฐ.ได้ร่วมกับภาคเอกชนและภาคประชาสังคม
ในการดำเนินงานโครงการโรงเรียนประชารัฐ ระยะแรก มาตั้งแต่ปีงบประมาณ
2559 จำนวน 3,342 โรงเรียน ส่วนปีงบประมาณ
2560 ซึ่งเป็นการดำเนินงานระยะที่ 2 ได้บูรณาการโครงการโรงเรียนดีใกล้บ้าน
โรงเรียนแม่เหล็ก และโรงเรียนขนาดเล็ก เข้าไว้ด้วยกัน จำนวน
4,081 โรงเรียน
ซึ่งทำให้โรงเรียนประชารัฐ (ดีใกล้บ้าน)
ทั้งสองระยะมีจำนวนโรงเรียนเข้าร่วมโครงการจำนวนทั้งสิ้น 7,423 โรงเรียน
พร้อมกับเพิ่มวัตถุประสงค์ที่จะให้บริการโรงเรียนเครือข่ายอีกด้วย
โดย สพฐ. ได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการโครงการโรงเรียนประชารัฐ
(ดีใกล้บ้าน) ที่ 877/2560 สั่ง ณ วันที่ 8 มิถุนายน 2560
เพื่อมีหน้าที่ในการขับเคลื่อนนโยบายและแนวทางดำเนินการ
ตลอดจนการแก้ไขปัญหา
พร้อมทั้งกำกับดูแลและติดตามการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการโรงเรียนประชารัฐ
เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม
จึงได้มีการประชุมปฏิบัติการในครั้งนี้
เพื่อพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศให้สามารถเชื่อมโยงกับระบบข้อมูลสารสนเทศต่าง
ๆ ที่มีอยู่ของ สพฐ. ร่วมกับภาคเอกชนได้ โดยเชิญผู้อำนวยการสำนัก
ผู้รับผิดชอบระบบข้อมูลสารสนเทศของสำนักต่างๆ ภายใน สพฐ. ผู้แทนภาคเอกชน
และผู้แทน World Bank เข้าร่วมประชุมจำนวน 40
คน
ทั้งนี้
ได้ฝากให้ที่ประชุมร่วมกันหารือเพื่อพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ สพฐ.
ให้เป็นปัจจัยสำคัญที่จะเป็นฐานข้อมูลและข้อมูลสนับสนุนในการวางแผนและปัจจัยรอบด้าน
เพื่อให้บรรลุพันธกิจของโรงเรียนประชารัฐ
ซึ่งจะต้องนำระบบข้อมูลสารสนเทศที่มีอยู่แล้วในหลายระบบในสำนักต่าง ๆ
เช่น ระบบบัญชี ระบบผลสัมฤทธิ์นักเรียน ระบบการรับนักเรียน ฯลฯ
ที่จัดเก็บแตกต่างกันไป
มาทำให้เกิดความเชื่อมโยงและใช้ประโยชน์ร่วมกันได้
อันจะส่งผลให้โรงเรียนและหน่วยปฏิบัติลดภาระในการกรอกข้อมูล
สามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่าและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

บัลลังก์ โรหิตเสถียร: สรุป/รายงาน
อิทธิพล รุ่งก่อน: ถ่ายภาพ
21/7/2560
