สนามเสือป่า สำนักพระราชวัง – พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และประธานคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “วันเด็กแห่งชาติ 2558” จัดโดยกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมให้โอวาทเยาวชน ภายใต้คำขวัญ “ความรู้ คู่คุณธรรม นำสู่อนาคต”
8.30 น.
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ในนามของ ศธ. คณะกรรมการจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2558 พร้อมทั้งเด็กและเยาวชนจากทั่วประเทศ ขอกราบขอบพระคุณนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2558 ในครั้งนี้
การจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2498 และดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งในปีนี้เป็นปีที่ 58โดย ศธ.ได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับทุกส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน จัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ ในส่วนกลางมีการจัดงานและพิธีเปิดงานที่สนามเสือป่า สำนักพระราชวัง
โดยนำคำขวัญของนายกรัฐมนตรีที่ว่า “ความรู้ คู่คุณธรรม นำสู่อนาคต” มาเป็นหลักและแนวทางในการจัดกิจกรรมให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้อย่างสร้างสรรค์และสนุกสนาน
ด้วยการจัดให้มีลานเครื่องเล่น กิจกรรม ความบันเทิง การแสดง เกม และการมอบหนังสือ ของขวัญ ของที่ระลึกมากมาย เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้รับการปลูกฝังให้เป็นเด็กและเยาวชนที่ดี มีวินัย และเป็นกำลังสำคัญในการสร้างชาติไทยให้มั่นคงสืบไป
การจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2558 ในครั้งนี้ ได้รับความเอื้อเฟื้อและความอนุเคราะห์อย่างดียิ่งจากสำนักพระราชวังที่กรุณาอนุญาตให้ใช้สนามเสือป่าเป็นสถานที่จัดงาน รวมถึงส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่ร่วมกันจัดกิจกรรมต่างๆ อย่างเต็มกำลังความสามารถ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันแห่งความทรงจำและความประทับใจ เมื่อมองย้อนกลับไปจะเห็นว่าหลายอย่างมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งความเจริญของบ้านเมือง การพัฒนาเทคโนโลยี การมอบคำขวัญในแต่ละปีความหมายทั้งสิ้น ขึ้นอยู่กับเด็กและเยาวชนว่าจะมีความเข้าใจและนำไปสู่การปฏิบัติได้มากน้อยแค่ไหน จึงได้กำหนดคำขวัญวันเด็กให้สั้นที่สุด แต่มีความหมายมากที่สุด เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติอย่างยั่งยืนให้ได้ อีกทั้งมีความดีใจที่ประชาชนให้การต้อนรับและชื่นชม ทำให้คิดได้ว่าจะต้องทำอะไรให้มากขึ้น ทำให้เด็กและเยาวชนมีอนาคตที่ดีขึ้น แม้ว่าจะมีเวลาค่อนข้างจำกัด แต่จะพยายามทำให้ลูกหลานไม่ต้องเผชิญกับความยากลำบาก
ด้วยรัฐบาลตระหนักดีถึงความสำคัญของประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเทศให้เจริญก้าวหน้าในอนาคตการศึกษาทั้งในระบบและนอกระบบจะสร้างคุณภาพเด็กและเยาวชนให้สามารถเรียนรู้ พัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ โดยกำหนดให้มีการพัฒนาการศึกษาตลอดทุกช่วงวัย ให้ทุกคนเรียนรู้ให้ทันเหตุการณ์ และสถานการณ์โลก
เนื่องจากโลกมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่มีเพียงสิ่งเดียวที่สามารถยึดมั่นไว้ได้ ก็คือการยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนของศาสนา และเสาหลักของประเทศไทย ได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตลอดจนความกตัญญูรู้คุณต่อพ่อแม่ ครูบาอาจารย์
เด็กและเยาวชนทุกคนต้องทำความดี มีความซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรม จริยธรรม ไม่ทุจริตหรือเห็นชอบกับการทุจริต หากประเทศชาติมีความสงบเรียบร้อย ก็จะเกิดความมั่นคง และความมั่นคงเป็นบ่อเกิดของความมีเสถียรภาพ ทั้งทางการเมือง การทหาร การต่างประเทศ และเศรษฐกิจ ต้องแปลงวิกฤติให้เป็นโอกาสในการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตนเอง โดยจะมีรัฐบาลเข้ามาช่วยดูแล
นอกจากนี้ ต้องการให้เด็กและเยาวชนศึกษาเล่าเรียนอย่างมีความสุข และให้ทุกฝ่ายร่วมมือกัน ทั้งพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ รวมทั้งผู้ที่อยู่ในระบบการศึกษา เพื่อช่วยกันลดความเหลื่อมล้ำในเรื่องการศึกษาของประชาชนให้มีความเท่าเทียมกันด้วยความพอเพียงตามฐานะของแต่ละครอบครัว แต่ก็ต้องได้มาตรฐานด้วย หากทุกฝ่ายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเด็กและเยาวชน ประชาชน ข้าราชการ และผู้นำประเทศ มีการพัฒนาให้มีคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต ความขัดแย้งก็จะไม่เกิด สังคมก็จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะคุณธรรม จริยธรรมสามารถแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้
เด็กและเยาวชนจะต้องเริ่มสัญญากับตัวเองในการทำสิ่งทีดีให้กับตนเองและครอบครัว เช่น การไม่โกหก ไม่นอนตื่นสาย ไม่ขี้เกียจไปโรงเรียน รักพ่อแม่ให้มากขึ้น ไม่เล่นเกมตอนกลางคืน และทำการบ้านก่อนเล่นเกมหรือดูโทรทัศน์ เป็นต้น เด็กและเยาวชนจะต้องมีภูมิคุ้มกันที่ดีในการใช้จ่ายและวางแผนการใช้ชีวิตต่อไปในอนาคต มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด และมีอนาคตที่สดใส
ในการนี้ ขอขอบคุณองค์กรและหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดงานครั้งนี้ ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เดชะพระบารมีอันแผ่ไพศาลขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้โปรดดลบันดาลประทานพรให้กับผู้ปกครอง เด็กและเยาวชน และทุกคนที่มาร่วมงานจงประสบแต่ความสุขความเจริญ คิดและหวังสิ่งใดขอให้สมความปรารถนาทุกประการ
กรุณาติดตามสรุปข่าวเพิ่มเติม https://www.moe.go.th/websm/2015/jan/012.html