นพ.ธีระเกียรติ
เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานพิธีเปิดงาน
"เดินหน้า สกสค." ครั้งที่ 1 เมื่อวันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562
ณ หอประชุมคุรุสภา
โดยมี พล.อ.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ,
นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ, นายสุภัทร จำปาทอง
เลขาธิการสภาการศึกษา, นายณรงค์ แผ้วพลสง
ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ,
น.ส.อุษณีย์ ธโนศวรรย์ เลขาธิการ ก.ค.ศ.,
ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ข้าราชการ
ครู และบุคลากรทางการศึกษา เข้าร่วมงานจำนวนมาก

รมว.ศึกษาธิการ
กล่าวแสดงความชื่นชมการทำงานของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
(สกสค.) ในช่วงเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา
ซึ่งถือว่ามีความก้าวหน้าและช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ
เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
เช่นเดียวกับกระทรวงศึกษาธิการในยุคนี้ที่สามารถสะสางการทุจริตคอร์รัปชั่นมีความก้าวหน้าและอยู่ในขั้นตอนของกฎหมายหลายคดี
รวมทั้งการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ที่ได้หารือร่วมกับธนาคารออมสิน
ทำให้ทราบว่าธนาคารมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 18%
จากหนี้สินครูกว่า 5 แสนล้านบาท ประกอบกับในอดีต สกสค. หักเงิน
0.5-1% ในโครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา
(ช.พ.ค.)
และโครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาในกรณีคู่สมรสถึงแก่กรรม
(ช.พ.ส.) เข้ากองทุนสนับสนุนพิเศษ ช.พ.ค. พร้อมมีข้อตกลงว่า
หากผู้กู้ไม่ชำระเงินติดต่อกันต่อเนื่อง 3 เดือน เพื่อไม่ให้ธนาคารมีหนี้
NPL ธนาคารสามารถหักเงินส่วนนี้คืนจนกว่าจะมีหนี้สะสมติดกัน
ทำให้ธนาคารต้องหักเงินไปกว่า 1 หมื่นล้านบาท
เมื่อนั้นธนาคารออมสินจึงจะทยอยคืน
ซึ่งการเจรจาเพื่อขอให้ธนาคารออมสินยกเลิกการหักเงินส่วนต่างของดอกเบี้ย
0.5-1% ในโครงการ ช.พ.ค.และ ช.พ.ส. ก็ประสบความสำเร็จ
โดยจะนำเงินส่วนนี้คืนให้แก่ครูที่มีวินัยทางการเงินดี
เพื่อช่วยลดอัตราดอกเบี้ย
ขณะนี้มีครูได้รับประโยชน์แล้วกว่า 3.9 แสนคน และทำให้ NPL ลดลงจาก 18%
เหลือเพียง 0.5% เท่านั้น ทั้งนี้ธนาคารจะไม่คืนไม่ได้
มิฉะนั้นธนาคารจะล้มและกระทรวงการคลังก็ต้องหาเงินมาช่วยเหลือ ดังนั้น
ครูทั้งหลายจึงมีส่วนช่วยให้ธนาคารอยู่รอด
ในส่วนของการทำประกันชีวิต
ได้ขอให้ทบทวนรูปแบบที่เหมาะสมและดีขึ้นกว่าเดิม
และหากนำเงินส่วนนี้กลับคืนมาได้จริง
ก็จะมีงบประมาณในการพัฒนาสวัสดิการเพื่อช่วยวิชาชีพครูมากขึ้น
จึงเชื่อว่า สกสค.ในยุคนี้มีศักยภาพในการบริหารจัดการงบประมาณและลงทุนอย่างรอบคอบ
เพื่อนำผลกำไรมาช่วยบุคลากรทางวิชาชีพครูมากขึ้นอีกทางหนึ่ง
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวย้ำถึงการทำงานของ สกสค.ด้วยว่า
ควรยึดหลักความโปร่งใสและไม่ใช้อำนาจเกินขอบเขต
เพื่อพัฒนางานและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา อาทิ
การออกข้อบังคับเอง ระบบการเงินที่ไม่ชัดเจน หรือเรื่องอื่น ๆ
ที่ไม่สามารถตรวจสอบได้
พร้อมได้ประสานขอความร่วมมือให้คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.)
มาช่วยตรวจสอบเรื่องดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้
ขอฝากคำสอนของพระนักปฏิบัติที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับการโกงว่า ใครโกง
ลูกหลานไม่เจริญ ทำให้ชีวิตจมลงทุกราย
และเมื่อต้องจบชีวิตก็จะจบแบบไม่ดี
โอกาสนี้ รมว.ศึกษาธิการ
ได้มอบโล่แก่พระพรหมมังคลาจารย์ (ธงชัย ธมฺมธโช)
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร กรุงเทพฯ
ผู้มีคุณปการต่อการศึกษาชาติ
พร้อมโล่สำหรับผู้บริจาคทรัพย์ให้โรงพยาบาลครู จำนวน
6 คน ได้แก่ 1) นายธีระศักดิ์ กำบรรณารักษ์ 2) นายพิทยา
มหิทธิวาณิชชา 3) นายโชติ แสงรัตนกุล 4) นางสาวศศิธร เอี่ยมแก้ว 5)
นพ.บุญชัย อิศราพิสิษฐ์ และ 6) นางสุณี พิทยาอิสรกุล
และรางวัลผู้ที่ประสบความสำเร็จจากโครงการเงินกู้ ช.พ.ค.ใน 4 ภูมิภาค
ได้แก่ ภาคเหนือ : นางพิมพ์รัตน์ วิลาชัย ครูชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนอนุบาลพะเยา จ.พะเยา จากครูสู่เจ้าของธุรกิจ, ภาคใต้ :
นางเสาวลักษณ์ ทองย้อย ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมการศึกษาเอกชน
สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดตรัง สร้างรายได้จากอสังหาริมทรัพย์, ภาคกลาง :
นายทรงเดช ขุนแท้ ศึกษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ อดีตข้าราชการครู
ต่อยอดการเกษตรสู่เจ้าของกิจการ "บ้านสวนขนุนเดช"
และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : นางกมลเนตร เพ็ชรกูล ครูชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนเชียงยืนวิทยาคม จ.มหาสารคาม สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น
"หัตกรรมบนแผ่นกระจก" เพื่อสร้างรายได้ และส่งต่อสู่เด็กเยาวชนรุ่นหลัง

นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ
ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. กล่าวถึงผลการดำเนินงานของ
สกสค. ภายใต้แนวคิด "ซ่อมอดีต สร้างอนาคต" ในช่วงเวลา 3
เดือนที่ผ่านมา (ตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม 2561) ได้จัดสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างมีมาตรฐาน
ภายใต้ยุทธศาสตร์การดำเนินงานภารกิจ 4 ด้าน ได้แก่
การปฏิรูปองค์กรสู่ความโปร่งใส การประสานความร่วมมือ
ยกระดับคุณภาพการจัดสวัสดิการสวัสดิภาพมุ่งสู่คุณภาพการศึกษา
การสร้างรายได้อย่างมั่นคง ดำรงการจัดสวัสดิการ
และการเพิ่มคุณภาพการให้บริการหลากหลายสื่อนวัตกรรมทางการศึกษา
โดยมีผลการดำเนินงานที่มีความก้าวหน้าหลายส่วน อาทิ
-
การซ่อมอดีต
ด้วยวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นที่จะสะสางปัญหาอุปสรรคที่หมักหมมมานาน
รวมทั้งสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของ สกสค.
ให้เป็นหน่วยงานระดับมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับจากสาธารณชน
-
การสร้างอนาคต
ได้ระดมพลังจากทีมงานทั้งส่วนกลางและสำนักงาน สกสค.จังหวัด ทั้ง 77
จังหวัด เพื่อวางแผนดำเนินงานและเตรียมการพัฒนาการทำงานของ สกสค.
เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาหลายโครงการ อาทิ
การให้บริการเหนือความคาดหมาย, การจัดตั้ง "ศูนย์พิทักษ์สวัสดิภาพครูไทย"
เพื่อช่วยเหลือครูให้ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน, การพัฒนาปรับปรุง
"โรงพยาบาลครู" ให้เป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก แต่คุณภาพใหญ่
เตรียมเปิดให้บริการคลินิกนอกเวลา, การปรับปรุงการให้บริการหอพัก,
การยกระดับการบริหารจัดการ ช.พ.ค. และ ช.พ.ส.
และการสมัครเข้ารับรางวัลเลิศรัฐ ด้านการบริการที่เป็นเลิศ เป็นต้น
ทั้งนี้
การจัดงานเดินหน้า สกสค. ครั้งที่ 1 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-12
กุมภาพันธ์ 2562 ณ บริเวณโดยรอบหอประชุมคุรุสภาและสำนักงาน สกสค.
เพื่อแสดงผลงานและพัฒนาการของการจัดสวัสดิการและสวัสดิภาพให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยมีกิจกรรมสำคัญ อาทิ
การมอบรางวัลผู้ทำคุณประโยชน์, การเสวนาเรื่อง การจัดสวัสดิการ สวัสดิภาพอย่างไร
ให้ถูกใจครู, การทอล์กโชว์ โดยอาจารย์จตุพล ชมพูนิช
การแสดงของนักเรียนและครู เป็นต้น





















Written by
นวรัตน์ รามสูต
Photo Credit
อิทธิพล รุ่งก่อน
Rewriter
นวรัตน์ รามสูต
Editor บัลลังก์ โรหิตเสถียร