พล.อ.ดาว์พงษ์
รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
หารือกับผู้บริหาร
5 องค์กรหลัก
และหน่วยงานที่มีสถานศึกษาในสังกัด (กศน.,สช.)
รวมทั้งคณะวิจัยจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายรายหัวการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ
2560
ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เมื่อวันอังคารที่
16 สิงหาคม 2559 ณ
ห้องประชุม MOC กระทรวงศึกษาธิการ

รมว.ศึกษาธิการ
กล่าวว่า สพฐ. และคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ได้มานำเสนอและหารือเกี่ยวกับรายงานผลการวิจัยค่าใช้จ่ายรายหัวการศึกษาขั้นพื้นฐานใน
2 เรื่องหลัก คือ
ด้านความจำเป็นพื้นฐานของผู้เรียน
และด้านความจำเป็นเพิ่มเติมของนักเรียนพิการเรียนร่วมและด้อยโอกาส
1. ด้านความจำเป็นพื้นฐานของผู้เรียน
ปัจจุบันโรงเรียนในสังกัด สพฐ.ได้รับค่าใช้จ่ายรายหัว
7 ด้าน คือ 1) ค่าจัดการเรียนการสอน
(รวมค่าไฟฟ้าและสาธารณูปโภค) 2)
ค่าหนังสือเรียนเฉลี่ยแต่ละระดับ 3)
ค่าเครื่องแบบนักเรียน 4) ค่าอุปกรณ์การเรียน
5) ค่ากิจกรรมการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
6) Top-up
ปัจจัยยากจน 7)
Top-up
โรงเรียนขนาดเล็ก
สำหรับรายการในส่วนแรก
คือ "เงินอุดหนุนค่าจัดการเรียนการสอน" ที่ผ่านมา สพฐ.ได้กำหนดระเบียบให้ใช้ไว้กว้างขวางมาก
ทำให้โรงเรียนนำเงินไปใช้จ่ายปะปนกันเป็นค่าสาธารณูปโภคและค่าใช้จ่ายต่างๆ
เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าเครื่องปรับอากาศ คอมพิวเตอร์ ค่าขยะ ค่าจัดต้นไม้ ฯลฯ
จึงขอให้ สพฐ.จัดหมวดหมู่ค่าจัดการเรียนการสอนให้ชัดเจน
ไม่ควรนำงบค่าบริหารจัดการโรงเรียนกับงบการเรียนการสอนไปปนกัน
โดยแยกเงินส่วนค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ฯลฯ ออกไปจากส่วนนี้ เพื่อให้ค่าจัดการเรียนการสอนเป็นเงินอุดหนุนรายหัวสำหรับเด็กอย่างแท้จริง
ไม่นำไปใช้ผิดประเภท
อย่างไรก็ตาม
สพฐ.มีกติกาว่าเงินค่าสาธารณูปโภคจะใช้ได้ไม่เกิน
5% ของเงินอุดหนุนค่าจัดการเรียนการสอน
แต่ข้อเท็จจริงพบว่าใช้เกิน จึงขอให้
สพฐ. ไปหารือกับผู้บริหารโรงเรียนถึงสัดส่วนในการจัดหมวดหมู่การใช้งบประมาณที่เหมาะสม
และนำผลวิจัยมาหาตัวเลขที่เหมาะสมว่าโรงเรียนขนาดต่างๆ
ควรมีห้องเรียนอะไรบ้างหรือต้องใช้จ่ายอะไรบ้าง
เพราะผลวิจัยพบว่าต้องสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมให้เป็นค่าสาธารณูปโภคต่างๆ
จำนวนประมาณ 1,000
ล้านบาท
แต่กระทรวงศึกษาธิการจะพยายามไม่ของบประมาณเพิ่มเติมจากรัฐบาล
แต่จะเน้นไปที่การบริหารจัดการให้เหลืองบประมาณเพียงพอก่อนเป็นลำดับแรก
เช่น จะมีการปรับรูปแบบการอบรมสัมมนาในปีงบประมาณ
2560 ให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) เป็นผู้จัดมากขึ้น
ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาเข้ารับการอบรมที่ส่วนกลางน้อยลง
อันจะส่งผลให้งบประมาณเหลือมากขึ้น
สามารถนำไปใช้จ่ายเป็นค่าอุดหนุนเพิ่มเติมดังกล่าวได้
2.
ด้านความจำเป็นเพิ่มเติมของนักเรียนพิการเรียนร่วมและด้อยโอกาส
ที่ผ่านมารัฐไม่ได้อุดหนุนสำหรับนักเรียนในส่วนนี้เป็นพิเศษมาก่อน
แต่กระทรวงศึกษาธิการเห็นว่าควรจะต้องให้การอุดหนุนเงินรายหัวเพิ่มสำหรับนักเรียนพิการเรียนร่วม
337,000 คน
แต่ในส่วนของเด็กด้อยโอกาสและเด็กยากจนนั้น
จะนำตัวเลขผู้ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยมาประกอบการพิจารณากับตัวเลขที่กระทรวงศึกษาธิการมีอยู่ประมาณ
203,000 คน
เพื่อคัดกรองให้ได้ตัวเลขที่แท้จริง
และดูแลเด็กด้อยโอกาสและเด็กยากจนได้รับโอกาสทางการศึกษาให้มากขึ้นเช่นกันด้วย
ทั้งนี้
รายงานวิจัยได้เสนอให้รัฐจัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับครูพี่เลี้ยงและค่าวัสดุ/สื่อการเรียนการสอนเด็กสองกลุ่มนี้จำนวน 196 ล้านบาท
โดยจะขอนำไปหารือกับกองทุนส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาสำหรับคนพิการ สพฐ.
ซึ่งปัจจุบันกองทุนดังกล่าวได้รับเงินจัดสรรจากรัฐปีละ
150 ล้านบาท
คาดว่าจะจัดสรรเงินอุดหนุนให้เด็กกลุ่มนี้ได้ทันภายในปีงบประมาณ
2560 เช่นกัน

บัลลังก์ โรหิตเสถียร
: สรุป/รายงาน
ยุทธพงศ์ เลือกกลั่นดี : ถ่ายภาพ
16/8/2559

^
เลื่อนขึ้นด้านบน