นายสมบัติ นพรัก คณบดีวิทยาลัยการศึกษา มหาวิทยาลัยพะเยา (มพ.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ระบุว่าที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภาเห็นชอบในหลักการตามที่สภาคณบดีคณะครุศาสตร์ /ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย (ส.ค.ศ.ท.) เสนอให้กลับไปผลิตครูในหลักสูตรปริญญาตรี 4 ปี โดยให้ยกเลิกหลักสูตรผลิตครู 5 ปี นั้น ทำไมควรตระหนักเรื่องหลักสูตรครู 4 ปี เพราะความเป็นสากล เนื่องจาก ทั่วโลกส่วนใหญ่มีหลักสูตรผลิตครู 4 ปี แต่บางประเทศผลิตครู 3 ปี และปริญญาตรีควบโท 5 ปี ไม่มีประเทศใดในโลกที่ผลิตครู 5 ปีเหมือนไทย โดยประเทศที่ผลิตครูปริญญาตรี 3 ปี สำหรับหลักสูตรครูปฐมวัย และหลักสูตรครูปริญญาตรีควบปริญญาโท 5 ปี เช่น ฟินแลนด์ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์การสอบ PISA อันดับต้นๆ ส่วนกลุ่มประเทศอาเซียน คือสิงคโปร์ มีหลักสูตรครู 4 ปี มีผลการสอบ PISA ในปี 2558 ในกลุ่มการรู้เรื่องคณิตศาสตร์ การรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ และการรู้เรื่องการอ่าน อันดับ 1 ของกลุ่มประเทศ ที่เข้าสอบทั้งหมด ไม่เฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียน "ไทยมีหลักสูตรผลิตครู 4 ปี ตั้งแต่ปี 2497-2546 และหลักสูตรครูปริญญาตรี 5 ปี ตั้งแต่ปี 2547 เรียนจบ และสอบบรรจุ ปี 2552 ถึงปัจจุบัน มีผลการสอบตั้งแต่ปี 2543, 2546, 2549, 2552, 2555 และ 2558 โดยคะแนน ผลสัมฤทธิ์การสอบลดลงทุกกลุ่ม เมื่อเทียบ กับนานาประเทศทั่วโลกที่มีผลสัมฤทธิ์การเรียนสูงสุด ล้วนแต่มีหลักสูตรผลิตครู 3 หรือ 4 ปีทั้งสิ้น การมีหลักสูตรครู 5 ปี เมื่อวิเคราะห์เปรียบเทียบกับหลักสูตร 4 ปี ส่ง ผลให้เกิดความสูญเปล่าของผู้เรียนด้าน เวลา 1 ปี คิดเป็นงบประมาณต่อหัวต่อคนประมาณ 100,000 บาท จากผู้เรียนปีละ 50,000 คน คิดเป็นเงินค่าใช้จ่ายที่ผู้ปกครองต้องรับผิดชอบ 5 พันล้านบาท การสูญเสียโอกาส และเงินรายได้จากการทำงาน 1 ปี สำหรับผู้สอบบรรจุได้เป็นครูประมาณปีละ 10,000 คน อัตราเงินเดือน 15,050 บาท คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 150,500,000 บาท" นายสมบัติกล่าว นายสมบัติกล่าวอีกว่า ส่วนความเหลื่อมล้ำ ทางสังคม ระหว่างผู้เรียนหลักสูตรครู 5 ปี เมื่อเทียบกับผู้จบหลักสูตร 4 ปีสาขาอื่น ที่ต้องการเป็นครูหลังเรียนปริญญาโท 2 ปี ใช้เวลารวม 6 ปี ขณะที่ผู้เรียนครู 5 ปีโดยตรง ถ้าเรียนปริญญาโทอีก 2 ปี จะต้องใช้เวลาเรียนรวม 7 ปี นอกจากนี้ หากผู้เรียนหลักสูตรครู 5 ปี สอบครูไม่ได้ ต้องไปทำอาชีพอื่น จะได้เงินเดือนเท่ากับปริญญาตรี 4 ปีเท่านั้น แม้เงินเดือนปริญญาตรี 5 ปี จะมากกว่า เพียง 750 บาท การผลิตครู 4 ปี น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นการปฏิรูปการศึกษา นายสมบัติกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ควรกำหนดแนวทางการพัฒนาคุณภาพครู โดยแยกใบอนุญาตผู้ประกอบวิชาชีพครูเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1.ผู้เรียนหลักสูตรครูปริญญาตรี 4 ปี ได้รับใบอนุญาตครูประจำชั้น สอนระดับปฐมวัย ประถม และมัธยมต้น หากเรียนปริญญาตรงตามสาขา หรือกลุ่มวิชาที่รับผิดชอบ จะได้รับใบอนุญาตฯ ครูประจำวิชาอีก 1 ใบ สอนมัธยมปลายได้ และกรณีมีใบอนุญาตฯ 2 ใบ ควรกำหนดเงินเพิ่มค่าใบอนุญาตฯ และ/หรือเข้าสู่วิทยฐานะได้เร็วกว่าปกติ เป็นต้น 2.ผู้เรียนหลักสูตร 4 ปีสาขาอื่น และต่อปริญญาโททางวิชาชีพครู 2 ปี จะได้รับใบอนุญาตฯ ครูประจำวิชา สอนระดับมัธยมต้น และมัธยมปลาย 3.ผู้เรียนหลักสูตรครู 4 ปี ด้านอาชีวศึกษา ได้รับใบอนุญาตครูอาชีวศึกษา สอนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ตามวิชาเอก 4.ผู้เรียนหลักสูตร 4 ปีสาขาอื่น และเรียนต่อปริญญาโททางวิชาชีพครู 2 ปี จะได้รับใบอนุญาตฯ ครูอาชีวศึกษา สอนระดับ ปวช.และ ปวส.นอกจากนี้ สิ่งที่ ต้องปรับควบคู่ไปด้วย คือเนื้อหาของหลักสูตร ที่ต้องเน้นสมรรถนะ 3 กลุ่ม ได้แก่ ความ เป็นครู ศาสตร์การสอน และประสบการณ์วิชาชีพครู เพื่อสร้างคุณค่า หรือจิตวิญญาณความเป็นครู รวมทั้งการเรียนรู้/ ความรู้ และทักษะ บรรยายใต้ภาพ สมบัติ นพรัก --จบ-- --มติชน ฉบับวันที่ 18 ก.ค. 2560 (กรอบบ่าย)--
|