นายพิษณุ ตุลสุข รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) และผู้อำนวยการองค์การค้า สกสค. เปิดเผยว่า ปัญหาที่หนักใจที่สุดคือการทุจริตในองค์การค้าฯ ซึ่งปัญหาหนึ่งที่ทำให้องค์การค้าฯ ฟื้นตัวยาก คือการตรวจสอบพบว่าองค์การค้าฯ ได้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินตั้งแต่ปี 2538 จนถึงปัจจุบัน ประมาณ 1,000 ล้านบาท และต้องใช้ดอกเบี้ยให้กับธนาคารร้อยละ 7-8 บาทเรื่อยมานั้น ดังนั้น สกสค.จึงพยายามเจรจาขอลดดอกเบี้ยลงมาเหลือร้อยละ 3.5 และหากธนาคารยินยอม นอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายขององค์การค้าฯ ลงได้ปีละ 50 ล้านบาทแล้ว ยังประหยัดเงินที่ต้องจ่ายเงินคืนให้กับพนักงานเจ้าหน้าที่องค์การค้าฯ ดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ตามคำสั่งศาล ได้อีกประมาณปีละ 45 ล้านบาท ดังนั้นหากเจรจาสำเร็จทั้ง 2 เรื่อง จะลดค่าใช้จ่ายขององค์การค้าฯ ได้ปีละเกือบ 100 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ผู้อำนวยการองค์การค้าฯคนก่อนๆ ไม่แก้ปัญหาเรื่องนี้ หากเจรจาตั้งแต่เนิ่นๆ องค์การค้าฯ คงไม่ต้องแบกรับภาระหนี้สินมากมายขนาดนี้ สำหรับการคืนเงินพนักงานเจ้าหน้าที่องค์การค้าฯ ตามคำสั่งศาล ขณะนี้อยู่ระหว่างการให้ออกคำสั่งย้อนหลังตั้งแต่ปี 2547 ว่าใครจะได้เงินเดือนเพิ่มตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวนเท่าไร โดยวันที่ 16 มิ.ย.นี้ ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) สกสค.ซึ่งมี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธานนั้น จะเสนอขออนุมัติกู้เงินกองทุนสนับสนุนพิเศษเพื่อความมั่นคงของสมาชิกฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) และการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษากรณีคู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ส.) วงเงิน 1,200 ล้านบาท จากบอร์ดสกสค. หากที่ประชุมอนุมัติเงินกู้แล้วคาดว่ากลุ่มเกษียณอายุราชการที่มีอยู่ประมาณ 800 คนจะได้รับเงินในเร็วๆ นี้--จบ-- ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
|